ในโลกที่การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนผ่านจากเสิร์ชเอนจินแบบเดิมไปสู่ AI ที่เข้าใจภาษาได้ดีขึ้น กลายเป็นศึกใหญ่สำหรับเจ้าตลาดแห่งการค้นหาข้อมูลอย่าง Google
ล่าสุด Apple ก็เริ่มปรับตัวตามเทรนด์นี้แล้ว โดยระบุว่าอยู่ระหว่างพิจารณาอย่างจริงจัง ในการปรับโฉม Safari ให้รองรับ AI Search มากขึ้น หากความร่วมมือกับ Google ซึ่งมีมูลค่าถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 660,000 ล้านบาทต่อปี ต้องสิ้นสุดลง
เอ็ดดี คิว (Eddy Cue) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการของ Apple เปิดเผยว่า ปริมาณการค้นหาผ่าน Safari ลดลงเป็นครั้งแรกในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่า ผู้ใช้งานเริ่มหันไปใช้ AI ในการค้นหาแทนเสิร์ชแบบเดิม
เขาพูดเสริมว่า “ก่อนหน้านี้ไม่มีตัวเลือกไหนที่น่าใช้เลย แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไปเพราะ AI กำลังแก้ปัญหาและค้นหาในมุมมองที่หลากหลาย”
โดยบริษัท Apple เห็นว่าผู้ให้บริการค้นหาอย่าง OpenAI, Perplexity, Anthropic, DeepSeek และ Grok อาจกลายเป็นผู้เล่นรายสำคัญที่เข้ามาแทน Google ในอนาคต โดยแม้จะยังไม่ใช่ตัวเลือกหลัก แต่ Apple ก็เตรียมเพิ่มให้ผู้ใช้เลือกใน Safari ได้
หุ้น Google ดิ่ง หลังข่าว Apple เปลี่ยนมาใช้ AI บน Safari

หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ หุ้นของ Alphabet (เจ้าของ Google) ร่วงลงทันทีถึง 8.8% ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้แดงตาม ขณะที่หุ้น Apple เองก็ปรับลง 2.5% เช่นกัน นักลงทุนเริ่มกังวลว่า หาก Apple ไม่ต่อดีลกับ Google รายได้ที่ Apple ได้จากการทำให้ Google เป็นเสิร์ชเอนจินหลักใน Safari จะหายไปทันที
ปัจจุบันดีลกับ Google ยังถือว่ามีเงื่อนไขที่ดีที่สุดในเชิงการเงิน Apple ยังได้ขยายความร่วมมือให้ Google Lens เป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ Visual Intelligence ใน iPhone รุ่นใหม่ ที่ให้ผู้ใช้ถ่ายรูปแล้ววิเคราะห์ภาพด้วย AI จาก Google
แม้จะยังไม่ตัดขาดจาก Google ในทันที แต่ Apple ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่ากำลังเตรียมพร้อมสำหรับยุคใหม่ของการค้นหา ด้วยการเปิดประตูให้ AI อย่าง ChatGPT และ Perplexity เข้ามามีบทบาทใน Safari มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของจุดเปลี่ยนวงการค้นหาทั่วโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า