ถ้านับย้อนไปถึง Rocky ภาคแรกที่ออกฉายเมื่อปี 1976 แฟรนไชส์ Rocky ก็มีอายุ 47 ปีเข้าไปแล้ว หลังจากภาค 6 ที่ออกมาในชื่อ Rocky Balboa เมื่อปี 2006 ก็ดูเหมือนว่าสตอลโลนจะหยุดแฟรนไชส์หลักไว้เท่านี้ แล้วมาสานต่อใน Creed ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ภาคแยก ซึ่งสตอลโลนก็ยังกลับมาในบทบาท ร็อคกี้ บัลบัว ผู้ทำหน้าที่โค้ชให้กับ อโดนิส ครีด ลูกชายของเพื่อนรัก อะพอลโล ครีด ซึ่ง Creed ก็ถือว่าเป็นอีกแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จ สามารถสานต่อเป็นไตรภาคได้อย่างงดงาม แต่น่าเสียดายที่สตอลโลนไม่กลับมาปรากฏตัวในภาค 3 ที่เพิ่งลงโรงฉายไม่นานนี้ ด้วยเหตุผลออกแนวน้อยใจ ว่าบทบาทร็อคกี้ของเขาไม่มีความสำคัญในเรื่องราวเท่าที่ควร

แต่หลังจากสตอลโลนหายไปจาก Creed ก็ทำให้แฟน ๆ คาดเดาไปว่า สตอลโลนคงจะปล่อยวางจากแฟรนไชส์ Rocky แล้วจริง ๆ แต่แล้วสตอลโลนก็สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแฟน ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา ด้วยการโพสต์โครงเรื่องสั้น ๆ ของ Rocky 7 ทางอินสตาแกรมส่วนตัว แล้วก็ลบมันออกโดยไม่ทราบเหตุผล โดยสรุปเรื่องราวที่สตอลโลนเผยออกมานั้น เป็นเรื่องราวร็อคกี้ในบั้นปลายต้องทำหน้าที่โค้ชฝึกให้กับนักมวยหน้าใหม่ที่ต้องลงสังเวียนต่อสู้เพื่อชุมชน สตอลโลนยังเผยอีกว่า คู่ต่อสู้รายใหม่ของเขานี้จะต่างจากที่เขาเคยเผชิญมาทั้งหมด แล้วยังจะส่งผลกับอนาคตของร็อคกี้อีกด้วย สตอลโลนยังเปรยว่าเสียดายอีกด้วย ที่เขาไม่ได้เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ในการสร้าง Rocky แต่เป็นของ เออร์วิน วิงเคลอร์ (Irwin Winkler) ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่สตอลโลนตัดสินใจลบโพสต์นี้ในภายหลัง

ใน Rocky 7 นั้น ภาคนี้ ร็อคกี้จะทำหน้าที่เป็นปากเสียงของชุมชนปกป้องสิทธิของเขาและเพื่อนบ้านจากนายทุนที่กำลังจะกว้านซื้อที่ดินในย่านนอร์ธฟิลาเดเฟีย เพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นหมู่บ้านจัดสรรสำหรับคนรวย นายทุนพยายามใช้กลยุทธ์หลากหลายในการบีบบังคับให้เหล่าชนชั้นแรงงานที่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้มาหลายทศวรรษได้ย้ายออกไป ในช่วงนี้ร็อคกี้ได้ทำหน้าที่เป็นโค้ชให้กับ “Chucho the Mutt” นักมวยชาวลาติน ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ร่วมกันเป็นแกนนำในการต่อต้านนายทุน

จากเรื่องย่อนั้นสื่อให้รับรู้ได้ว่า รูปแบบของศึกครั้งนี้จะแตกต่างกว่าภาคก่อน ๆ ที่ร็อคกี้จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้บนสังเวียนผ้าใบ แต่ก็ยังดูเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งน่าเกรงขามอยู่ดี และครั้งนี้ร็อคกี้จำต้องใช้กลยุทธ์ที่ต่างออกไปเพื่อเอาชนะ ที่ผ่านมา แฟน ๆ ของร็อคกี้จะรู้กันดีว่า เขาไม่ใช่ตัวละครที่มีมันสมองปราดเปรื่องนัก แต่จุดแข็งของเขาคือการเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่ง และอยู่ในสถานะ ‘ม้ารองบ่อน’ มาโดยตลอด

เหตุที่สตอลโลนเลือกหยิบ ‘ความรักในชุมชน’ ของร็อคกี้มาเป็นประเด็นหลักในภาค 7 นั้น สำหรับแฟน ๆ ที่ติดตาม Rocky มาโดยตลอดจะเข้าใจความสำคัญในเรื่องนี้ดี เพราะตลอดทุกภาคที่ผ่านมานั้น ย่านเคนซิงตัน ในนอร์ธฟิลาเดเฟียนั้น จะมีบทบาทต่อชีวิตของร็อคกี้เปรียบเหมือนอีกหนึ่งตัวละครสำคัญก็ว่าได้ แฟรนไชส์ Rocky ยังทำให้ ‘นอร์ธฟิลาเดเฟีย’ มีชื่อเสียงขึ้นมา สถานที่ต่าง ๆ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่แฟน ๆ ของ Rocky ตั้งใจมาเยี่ยมชม ทั้งศาลาว่าการ, ร้านขายของสัตว์เลี้ยงของเอเดรียน โรงยิมของมิคกี้ และตลาดของชาวอิตาเลียนบนถนนหมายเลข 9 และทุกครั้งที่ร็อคกี้ขึ้นชก บรรดาเพื่อนบ้านจะมารุมล้อมให้กำลังใจส่งเสียงเชียร์เขาอยู่เสมอ โดยเฉพาะแมตช์สำคัญใน Rocky II จึงไม่แปลกเลย เมื่อชุมชนเคนซิงตันโดนบุกรุก แล้วร็อคกี้จะต้องลุกขึ้นมาป้องกันมันอย่างที่สุด

แม้ว่าการเลือกหยิบประเด็นเรื่อง การปกป้องชุมชน มาเป็นประเด็นหลักในภาค 7 นี้ จะเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และคนที่ผูกพันกับแฟรนไชส์มาตลอดจะเข้าถึงได้ แต่ก็น่ากังวลกับการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน เพราะเหมือนกับเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่าเรื่องของ Rocky ที่ผู้ชมคุ้นเคยมาตลอด กับการที่ได้เห็นการแลกหมัดบนสังเวียน มาเป็นการต่อสู้นอกสังเวียน ระหว่างอดีตนักมวยระดับตำนานกับองค์กรยักษ์ใหญ่ ก็อาจจะลดเสน่ห์ และความมันส์ดุเดือดลงไปได้

แต่ทั้งหมดทั้งหลายนี้ก็ยังเป็นแค่ไอเดียเรื่องราวจาก ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน เท่านั้น และอาจจะไม่ได้รับการอนุมัติสร้างเลยก็เป็นได้ แต่ถ้าพิจารณาถึงความสำเร็จของ Creed III ที่ทำรายได้ไปถึง 261 ล้านเหรียญ สูงที่สุดในไตรภาค และสามารถต่อยอดให้แฟรนไชส์มีอนาคตไปได้อีกยาวไกล ก็ถือว่า Rocky 7 ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

ที่มา : screenrant boxofficemojo imdb