ในช่วงนี้กระแสภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมเริ่มเป็นประเด็นให้คนพูดถึงอีกครั้ง เมื่อภาพยนตร์เรื่อง ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ ฉายในต่างประเทศและมีคำวิจารณ์ในเว็บไซต์ ‘Rotten Tomatoes’ ออกมา ซึ่งสวนทางระหว่างนักวิจารณ์และคนดูจนทำให้เกิดประเด็นถกเถียงกันว่าภาพยนตร์มันดีจริงไหม ของฝ่ายที่สนับสนุนภาพยนตร์ กับฝ่ายที่ต่อว่าภาพยนตร์ที่ดูจากตัวอย่างว่าหนังคงแย่แน่ ๆ จนกลายเป็นการถกเถียงอยู่ตามสื่อต่าง ๆ ว่าเว็บไซต์วิจารณ์ภาพยนตร์เหล่านี้เชื่อถือได้ไหม เพราะในกรณีล่าสุดอย่าง ‘Eternals’ ที่ฝั่งนักวิจารณ์ให้มะเขือเน่า 48% ขณะที่คนดูนั้นกลับให้คะแนนตรงข้ามว่าน่าดูถึง 80% ที่ขัดแย้งกัน ซึ่งเมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่น ๆ ‘Rotten Tomatoes’ ค่อนข้างน่าเชื่อถือในอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะฝั่งนักวิจารณ์ที่จะอ้างอิงจากนักวิจารณ์ที่เชื่อถือได้ ดังนั้นการมองของทั้งสองฝ่ายจึงต่างกันชัดเจนเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่คนนอกสามารถมาอยู่ฝั่งนักวิจารณ์ได้ แต่ก็มีหลายครั้งที่นักวิจารณ์กับคนดูเห็นตรงกัน โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่มาจากเกม จะมีภาพยนตร์จากเกมเรื่องอะไร ที่นักวิจารณ์กับคนดูเห็นตรงกันบ้างมาดูพร้อมกันเลย
Resident Evil Welcome to Raccoon City นักวิจารณ์ให้มะเขือเน่า 26% ฝั่งคนดูให้น่าดู 58% สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น


เริ่มต้นเรื่องแรกกับภาพยนตร์ที่หลายคนคงอยากจะรู้ ว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่ของซีรีส์ ‘Resident Evil’ อย่าง ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ ที่ตั้งแต่ตัวภาพยนตร์ประกาศสร้างจนปล่อยภาพในกองถ่ายและตัวอย่างออกมา ก็ทำให้บ้านเราเกิดเสียงแตกออกมา 3 ทางคือ ด่าว่าหนังต้องห่วยแน่ ๆ กับฝั่งที่บอกว่าต้องดีซิ กับฝ่ายที่ 3 บอกว่ารอดูหนังก่อนอย่างเพิ่งไปตัดสิน ซึ่งในต่างประเทศได้มีการฉายในรอบปกติไปแล้วและได้เสียงวิจารณ์จากฝั่งสื่อจาก 35 สำนักให้คะแนนมะเขือเน่า 26% ขณะที่ฝั่งคนดูนั้นตัวเลขเปลี่ยนไปมาตลอด เพราะในวันที่หาข้อมูลยังได้คะแนนน่าดูอยู่ที่ 62% แต่ตอนนี้กลับลดลงเหลือเททิ้งได้แค่ 58% เรียกว่าทั้งฝั่งชอบและไม่ชอบต่างถกเถียงให้คะแนนกัน โดยฝ่ายนักวิจารณ์บางส่วนบอกว่า “ทำไมต้องสร้างภาพยนตร์ที่แตกต่างจากขอบเขตที่มันมี ในเมื่อคุณสามารถสร้างภาพยนตร์ที่มันมีต้นแบบดีอยู่แล้ว” อีกคนบอกว่า “ตัวภาพยนตร์ให้ความตึงเครียดและเต็มไปด้วยการแสดงความเคารพต่อเกมดั้งเดิม แต่แยกตัวเองออกเป็นเรื่องราวของตนเองที่น่าตื่นเต้นและน่าสะพรึงกลัว” ส่วนฝั่งคนดูให้ความเห็นว่า “เป็นการผจญภัยที่สนุกสนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นแฟนตัวยงของ ‘Resident Evil’ ถ้าคุณไม่ชอบหนังเรื่องนี้ คุณไม่ใช่ ‘RE Fan’ ตัวจริง” ส่วนคนที่ติติงบอกว่า “น่าผิดหวังจริง ๆ พวกเขาเปลี่ยนเรื่องราวของตัวละครมากมาย รู้สึกเหมือนพวกเขาต้องการหากำไรจากชื่อ ‘Resident Evil’ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้สนใจแฟน ๆ เกมนี้เลย” ถ้าให้สรุปคงต้องบอกว่าตัวภาพยนตร์ค่อนข้างสนุกแต่เนื้อหานั้นต่างจากเกมมาก คงต้องรอดูว่าจะสนุกหรือไม่เอาไว้รอดูในโรงภาพยนตร์ดีกว่า


House of the Dead นักวิจารณ์ให้มะเขือเน่า 3% ฝั่งคนดูให้เททิ้ง 10% นี่สนุกแล้วหรอ


ยังคงอยู่กับหนังซอมบี้แต่เปลี่ยนมาดูภาพยนตร์จากเกมที่ได้คะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน จากทั้งฝั่งนักวิจารณ์และฝั่งคนดูที่ต่างเทคะแนนทิ้งให้ภาพยนตร์เรื่อง ‘House of the Dead’ ที่ฉายในปี 2003 กับคะแนนฝั่งนักวิจารณ์จาก 61 สำนักให้มะเขือเน่า 3% ส่วนฝั่งคนดูเกินกว่า 25,000 ก็ให้เททิ้งสูงถึง 10% โดยเนื้อหาของภาพยนตร์นั้นจะเล่าถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ไปเที่ยวเกาะร้างกลางทะเล ก่อนจะโดนซอมบี้บนเกาะฆ่า ซึ่งถ้าคุณเป็นคนเล่นเกมจะรู้ว่าเรื่องราวนี้เกิดขึ้นก่อนเกมภาคแรก โดยฝั่งนักวิจารณ์ที่ชมก็บอกว่า “ด้วยงบประมาณที่จำกัดแต่ตัวภาพยนตร์ก็ชดเชยด้วยฉากต่อสู้ที่เร้าใจ ทดแทนส่วนของเนื้อเรื่องฉากตัวละครได้” ส่วนฝ่ายที่ติติงก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าภาพยนตร์ขาดความสนุกเนื้อเรื่องไม่น่าสนใจ “ตัวภาพยนตร์ถือว่าสนุกแต่ขาดความน่าติดตาม แต่เพียงเพราะมันสร้างด้วยวิธีที่ไร้ความประณีตและไม่เป็นมืออาชีพ (คิดภาพไม่ออกให้คิดถึง เลว 2018 อะไรแบบนั้น) จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์” ส่วนฝั่งคนดูที่หาคนให้เกิน 3 ดาวไม่ได้เลย ส่วนมากจะต่อว่าเรื่องราวของเนื้อหาที่ไม่ตรงในเกม จนบางทีไม่ต้องใช้ชื่อ ‘House of the Dead’ คงไม่โดนด่าแบบนี้ “เกลียดมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น โอเค แย่หน่อยก็ได้” ส่วนอีกคนบอกว่า “ประหยัดเวลาของคุณ จงหลีกเลี่ยงภาพยนตร์เรื่องนี้” ใครที่อยากรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้แย่อย่างที่ว่าไหมก็ไปหาดูได้ ตัวภาพยนตร์มี 2 ภาคเลยทีเดียว


Super Mario Bros นักวิจารณ์ให้มะเขือเน่า 28% ฝั่งคนดูให้เททิ้ง 29% ถ้าอยากล้างสมองก็ควรไปดู


ถ้าพูดถึงภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกมแล้ว ไม่พูดถึงภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง ‘Super Mario Bros’ บทความนี้คงขาดความสมบูรณ์ไปในทันที เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้คือภาพยนตร์จากวิดีโอเกมเรื่องแรกในประวัติศาสตร์วงการเกมที่ต้องจดบันทึกเอาไว้ และนี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ ‘Nintendo’ ยอมเอาตัวละครในค่ายตัวเองมาทำเป็นภาพยนตร์ โดยเรื่องราวจะกล่าวถึงสองพี่น้องที่ต้องไปช่วยเจ้าหญิง ที่ถูกเหล่าไดโนเสาร์จากมิติโลกคู่ขนานจับไป ซึ่งเรื่องราวเนื้อหาไปจนถึงตัวละครไม่มีความเป็นเกมอยู่เลย นอกจากหนวดนักแสดงในเรื่อง และด้วยความดีงามนี้เองจึงทำให้เหล่านักวิจารณ์กว่า 43 สำนักให้มะเขือเน่าไป 28% ส่วนคนดูเกินกว่า 100,000 คนให้เททิ้งไป 29% โดยส่วนนักวิจารณ์จะชื่นชมในส่วนของเนื้อหาภาพยนตร์ที่ถูกสร้างได้ลงตัว ดูสนุกถ้าเรื่องนี้ไม่แปะชื่อเกม ซึ่งคะแนนที่ถูกเทให้ทางมะเขือเน่าก็เพราะเรื่องราวไม่ตรงในเกมเลย หรือต้องเรียกว่าไม่ใช่เลย “ภาพยนตร์เรื่องนี้คือต้นแบบที่ดี เกี่ยวกับคำถามที่ว่าทำไมวิดีโอเกมถึงไม่สร้างภาพยนตร์ที่ดีออกมา” ซึ่งก็ตรงกับฝั่งคนดูที่คิดแบบเดียวกัน “พระเจ้า ทำไมคุณปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ฉันสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า และภาวนาว่าภาพยนตร์ ‘Super Mario’ ที่จะมาถึงในปีหน้านี้ไม่ใช่กองขยะเหมือนเรื่องนี้” อีกคนบอกว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำลายเกมโปรดของฉัน ทำไม ‘Nintendo’ ทำแบบนี้” สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นไปดูเอาเองแล้วคุณจะรู้ว่ามันสนุกหรือไม่


Silent Hill Revelation นักวิจารณ์ให้มะเขือเน่า 10% ฝั่งคนดูให้เททิ้ง 35% ถ้าชอบหนังผีก็ควรดูถ้าเล่นเกมมาก็ข้ามไปเถอะ


มาดูภาพยนตร์สยองขวัญกันบ้าง กับภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมที่หลายคนรู้จักอย่าง ‘Silent Hill’ กับภาพยนตร์เรื่อง ‘Silent Hill Revelation’ ที่เป็นภาคต่อจากภาพยนตร์ภาคแรกที่ความหลอนจากมิตินรกและการตามล่าจากปีศาจยังตามหลอกหลอนสาวน้อย จนเธอต้องหาทางยุติมันด้วยตัวเอง ตัวภาพยนตร์ต่อจากภาคที่แล้วแต่ถ้าไม่เคยดูภาคแรกมาก่อนก็สามารถดูได้ โดยคะแนนฝั่งนักวิจารณ์สวนทางกับคนดูไปคนละทาง จะให้มะเขือเน่ากับเททิ้งเหมือนกันก็ตาม ซึ่งส่วนมากจะชื่นชมภาคแรกว่าทำดีกว่า โดยฝั่งนักวิจารณ์ 60 สำนักให้มะเขือเน่า 10% ส่วนฝั่งคนดูเกิน 25,000 คนให้เททิ้ง 35% โดยฝั่งนักวิจารณ์บอกว่า “ต้องมีใครซักคนที่สามารถดัดแปลงวิดีโอเกมให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะศรัทธากำลังสูญเสียไปทุกปี และ ‘Silent Hill Revelation’ ก็ทำไม่ได้และเราก็หวังว่ามันจะมีวันเป็นจริง” หรือ “เมือง ‘Silent Hill’ ไม่ใช่สถานที่ที่คุณอยากไป และมันก็ใช้ได้กับผู้ชมเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์” หรือฝั่งคนดูก็ชื่นชมภาคแรกที่ทำออกมาน่าสนใจและมีความเป็น ‘Silent Hill’ กว่าภาคนี้ “หนังเรื่องนี้แย่มากน่าจะมีคะแนนติดลบ แม้ว่าภาพยนตร์เรื่อง ‘Silent Hill’ เรื่องแรกจะน่าทึ่ง แต่เรื่องนี้เป็นการเสียเวลาและทรัพยากรโดยสิ้นเชิง” อีกคนบอกว่า “เป็นความคิดที่บ้ามาก ฉันรักเกมนี้และคงจะเก็บภาพยนตร์เรื่องนี้ไปฝันแน่นอน รวมถึงนางพยาบาลและเจ้า Pyramid Head ที่จะฝังแน่นในหัวของฉันตลอดไป” สรุปถ้าคุณเป็นแฟนเกมนี้ควรดูแค่ภาคแรกก็พอ เพราะหลายส่วนค่อนข้างตรงกับเกม ส่วนภาค 2 ของภาพยนตร์นั้นไม่มีอะไรที่เหมือนในเกมภาค 3 เลย แต่ถ้าคุณชอบนางพยาบาลกับ Pyramid Head ก็ดูได้เลย


(อ่านต่อหน้า 2)