Microsoft เปิดตัว “Azure ML” ระบบการเรียนรู้บน Cloud Computing base ซึ่งมันสามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล และ ทำนายผลเหตุการณ์ในอนาคต
canstockphoto15648551
Microsoft เปิดตัว ระบบการเรียนรู้ใหม่ ที่ชื่อ “Azure ML” ซึ่งการทำงานของมันจะเป็นการประมวลผลบน Cloud Computing ซึ่งบริษัทหรือผู้ใช้ จะได้ใช้งาน Cloud Computing ในการสร้าง แอพพลิเคชั่น และ อินเทอร์เฟซโปรแกรมแอพพลิเคชั่น (Application Programming Interface, API) จากข้อมูลจำนวนมาก และ สามารถทำนายเหตุการณ์ในอนาคต แทนที่จะมาย้อนดูเหตุการณ์เก่าๆในอดีตว่าเกิดอะไรขึ้นไปแล้วบ้าง

Product ตัวนี้ สร้างบนเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ที่มีใช้อยู่ใน product ของ Microsoft หลายตัวแล้ว เช่น Xbox และ Bing ซึ่งเครื่องมือนี้ถูกสร้างมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สร้างระบบงานที่ทำนายผลล่วงหน้าที่เร็วกว่าวิธีเดิมๆ โดยผู้ใช้สามารถติดตั้ง API หรือ web service ไว้บน Azure ML ได้ด้วย

Joseph Sirosh รองประธานของ Microsoft พูดถึง Azure ML ไว้ว่า product ตัวนี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างแอพฯประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการทำนาย , พยากรณ์ และ เปลี่ยนผลลัพท์ในอนาคต ซึ่งจุดเด่นของ product ตัวนี้ คือ การมุ่งไปที่ผลลัพท์ที่อยู่ในอนาคต มากกว่าจะมองย้อนกลับไปดูสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีต

เขายังอธิบาย concept เพิ่มเติมว่า ” Traditional data analysis let you predict the future. Machine learning lets you change the future” หรือ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเดิมๆช่วยให้คุณทำนายอนาคต แต่การเรียนรู้ที่จะใช้เครื่องมือหรือเครื่องจักรจะช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงอนาคตได้

azuremlstudio-620x434

เครื่องมือของ Microsoft ตัวนี้สามารถใช้วิเคราะห์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ เช่น การพยากรณ์อุปสงค์ หรือ ความต้องการในสินค้าอะไรสักอย่าง , ทำนายเรื่องโรคระบาด , วิเคราะห์ว่าเครื่องจักรจะต้องทำการซ่อมบำรุงเมื่อไหร่ หรือแม้แต่การทำนายล่วงหน้า เพื่อป้องกันอาชญากรรมที่จะเกิด เป็นต้น

Azure ML นั้นถูกพัฒนาขึ้นด้วยภาษา R ซึ่ง Microsoft รองรับแพคเกจของภาษานี้กว่า 300 ชุด

จะว่าไป Azure ML ก็เคยถูกใช้งานมาก่อนหน้านี้แล้ว โดย มหาวิทยาลัย คาร์เนกี เมลลอน ในสหรัฐอเมริกา โดยใช้มันเพื่อวิเคราะห์หาวิธีประหยัดพลังงาน ซึ่งมีผลต่อการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องพลังงานภายในอาคาร

คาดการว่า Azure ML จะถูกเปิดตัวในเดือนหน้า แต่ยังไม่มีรายงานจาก Microsoft ถึงวันเปิดตัวที่แน่นอนว่าเป็นเมื่อใด

ที่มา : techcrunch
รูปจาก : zdnet | acsfoundation