4 มี.ค. โซนี่และฮอนด้าได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนสำหรับวางแผนพัฒนาและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมด้วยการให้บริการระบบการเดินทางร่วมกัน ซึ่งบริษัทใหม่จะตั้งขึ้นภายในปี 2022 และปล่อยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกออกขายในปี 2025 โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการกำหนดกรอบข้อตกลงในสัญญาขั้นสุดท้ายและการอนุมัติด้านกฎระเบียบ

โซนี่เป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติของญี่ปุ่นที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก ซึ่งโดดเด่นในเรื่องผลิตภัณฑ์คอนโซลวิดีโอเกม และผลิตเซนเซอร์รับภาพที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในโลก มีสินค้าชั้นนำอย่างกล้องถ่ายภาพ กล้องวิดีโอและทีวี อีกทั้งยังมีธุรกิจค่ายเพลงและสตูดิโอภาพยนตร์อีกด้วย

นอกจากนี้โซนี่ได้เปิดตัวต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้า Vision-S ในงาน CES 2020 โดยมุ่งเป้าหมายพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ด้วยการขับขี่อัตโนมัติ เซนเซอร์ และความบันเทิงในรถยนต์ และในงาน CES 2022 ก็ได้นำเสนอต้นแบบ SUV ไฟฟ้า Vision-S 02 พร้อมประกาศแผนการจัดตั้งบริษัท Sony Mobility ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.) 2022

ฮอนด้าเป็นบริษัทข้ามชาติของญี่ปุ่นที่ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของโลก อีกทั้งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในญี่ปุ่น มีผลิตภัณฑ์รถเอทีวี อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า อุปกรณ์ทำสวน เครื่องยนต์สำหรับเรือ เครื่องบินเจ็ต นอกจากนี้บริษัทยังมียานยนต์เข้าร่วมแข่งขันในมอเตอร์สปอร์ต เช่น Formula One, Motorcycle Grand Prix และอื่นๆ

นายเคนอิจิโร่ โยชิดะ (Kenichiro Yoshida) ซีอีโอของโซนี่กล่าวว่าจุดประสงค์ของโซนี่คือการเติมเต็มโลกด้วยอารมณ์ผ่านพลังของความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี ด้วยการเป็นพันธมิตรกับฮอนด้าที่มีประสบการณ์และความสำเร็จในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกมายาวนาน และยังคงพัฒนาความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เราจะสร้างอารมณ์ในการขับขี่ และสนับสนุนการพัฒนาที่เน้นความปลอดภัย ความบันเทิงและการปรับแต่งการใช้งานตามผู้ใช้รถ

นายโทชิฮิโร มิเบะ (Toshihiro Mibe) ซีอีโอของฮอนด้ากล่าวว่าบริษัทใหม่ตั้งเป้าว่าจะยืนอยู่แถวหน้าของนวัตกรรม การพัฒนา และการขยายตัวของเทคโนโลยีการขับขี่ไปทั่วโลก โดยจะสร้างมูลค่าของรถยนต์ให้เกินความคาดหมายและจินตนาการของลูกค้า ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยของฮอนด้าและองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ทั้งนี้การรวมจุดแข็งด้านเทคโนโลยีของทั้ง 2 บริษัทจะนำเสนอความเป็นไปได้ที่ยอดเยี่ยมสำหรับอนาคตของเทคโนโลยีการขับขี่

โลกของการเดินทางในอนาคตจะมุ่งเน้นไปที่ยานยนต์ปลอดมลพิษหรือรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้ค่ายรถยนต์ดั้งเดิมที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันจะต้องปรับเปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้า แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของตลาดได้นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในระบบผู้ช่วยการขับขี่อัจฉริยะหรือระบบขับขี่อัตโนมัติ ระบบสาระบันเทิงที่มีทั้งระบบเสียง บริการสตรีมวิดีโอและเกม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้ต้องมี

ส่วนบริษัทในธุรกิจเทคโนโลยีที่เก่งกาจในเรื่องระบบสาระบันเทิงและ AI อาจจะสร้างต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าได้ไม่ยากนัก แต่ในเรื่องของการออกแบบตัวรถ ความปลอดภัยในการขับขี่และระบบสายการผลิต ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลองผิดลองถูกและเรียนรู้ได้ทันคู่แข่งเจ้าตลาด

สรุปง่าย ๆ ว่าการรวมจุดแข็งของประสบการณ์ด้านการผลิตรถยนต์รวมเข้ากับความเก่งกาจด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะสามารถสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบสนองต่ออารมณ์ผู้ขับขี่ได้ แต่จะประสบความสำเร็จแค่ไหนก็ต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา : theverge

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส