หลังจากปล่อยให้ค่ายเกาหลีวาดลวดลายในตลาดมือถือจอพับนานหลายปี ในที่สุดก็มีคู่แข่งอย่างเป็นทางการในไทยสักที เมื่อ OPPO Find N2 Flip เปิดตัว โดยชูจุดเด่นว่าเป็น “พับที่ดีกว่า” และมีหน้าจอด้านหน้าขนาดใหญ่ 3.26 นิ้ว กินพื้นที่ไปประมาณครึ่งฝาหลังที่พับ ซึ่งทำให้กว่าคู่แข่งในตลาดด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องระดับ 50MP + 32MP ที่ปรับจูนโดย Hasselblad อีกด้วย

พับที่ดีกว่า

บานพับของ OPPO Find N2 Flip เรียกว่า Flexion Hinge พับจอด้านในเป็นรูปหยดน้ำ ซึ่งออปโป้พัฒนาต่อจาก OPPO Find N มือถือจอพับรุ่นแรกของแบรนด์ในปี 2021 (แต่ไม่ได้นำเข้ามาขายในไทย) ทำให้รอยพับตรงกลางเห็นรอยน้อยกว่าคู่แข่งมาก ซึ่งเป็นมือถือจอพับที่เห็นรอยพับน้อยที่สุดในตลาดตอนนี้แล้ว นอกจากนี้บานพับตัวนี้ยังไม่มีช่องว่างระหว่างจอเมื่อพับ ทำให้ฝุ่นไม่เข้าไปด้านในจนอาจเกิดความเสียหายกับจอได้

ส่วนเรื่องความแข็งแรงของจอ ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าสามารถพับและกาง OPPO Find N2 Flip ได้มากกว่า 400,000 ครั้ง ซึ่งเทียบเท่ากับการเปิดและปิดโทรศัพท์ประมาณ 100 ครั้งต่อวันเป็นเวลากว่าสิบปี

จอด้านในนี้เมื่อกางแล้วมีขนาด 6.8 นิ้ว ความลื่นไหล 120 Hz ให้ความสว่าง 1600 Nit พร้อมรองรับ HDR10+ ในจณะที่ตัวเครื่องมีน้ำหนักแค่ 191 กรัม และมีความบาง 7.45 มม. เท่านั้น

หน้าจอด้านนอกขนาดใหญ่กว่า

OPPO Find N2 Flip มีจอด้านนอกขนาด 3.26 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอด้านนอกที่ใหญ่ที่สุดในตลาดตอนนี้แล้ว ทำให้ใช้งานได้มากกว่า ทั้งดูวัน-เวลา สถานะแบตเตอรี่ รวมไปถึงการเช็กการแจ้งเตือนหรือการตอบกลับแอปส่งข้อความหลักได้เลยโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอหลัก รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนวิดเจ็ตบนหน้าจอได้อย่างหลากหลายให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่นเปิดเครื่องอัดเสียง หรือจัดการกับเพลงที่เปิดผ่าน Spotify ก็ได้

นอกจากนี้ยังมี Interactive Pet วอลล์เปเปอร์สัตว์เลี้ยงน่ารักที่โต้ตอบกับผู้ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว นก หนูแฮมสเตอร์ หรือกระต่าย เพียงแตะบนหน้าจอด้านนอกเพื่อแสดงแอนิเมชั่นสนุก ๆ 15 แบบสำหรับแต่ละตัว โดยสัตว์เลี้ยงจะซิงก์กับทุกกิจกรรมบนสมาร์ตโฟน เช่น ถ้ากำลังฟังเพลงโปรด สัตว์เลี้ยงก็ฟังเพลงไปพร้อมกัน

กล้องร่วมพัฒนากับ Hasselblad

กล้องหลักของ OPPO Find N2 Flip ประกอบด้วยเลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8 ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX890 ขนาด 1/1.56″ ซึ่งก็ทำหน้าที่เป็นเลนส์ซูมด้วย ส่วนเลนส์มุมกว้างมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ใช้เซนเซอร์ Sony IMX 355 พร้อมกับ NPU ตัวเก่งคือ MariSilicon X เพื่อช่วยประมวลผลในที่แสงน้อย และถ่าย 4K ในโหมด AI ได้

ด้วยความที่ OPPO Find N2 Flip มีหน้าจอด้านนอก ทำให้ใช้งานแบบ Dual Preview ได้ คือสามารถเปิดจอนอกที่ใหญ่ที่สุดในตลาดสมาร์ตโฟนพับแบบนี้ เพื่อแสดงตัวอย่างภาพที่กำลังถ่ายให้ตัวแบบได้เห็นและโพสท่าทางได้ นอกจากนี้ยังสามารถพับเครื่องเพื่อตั้งถ่ายรูปแทนขาตั้งกล้องได้ด้วย

ส่วนกล้องหน้าที่อยู่ด้านในมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.4 ซึ่งเราสามารถใช้กล้องนี้ถ่าย Selfie หรือจะใช้กล้องหลักด้านนอกถ่าย Selfie ก็ได้ เพราะมีจอนอกอยู่ข้างกล้องหลัก ทำให้ใช้จอเพื่อดูรูปที่ถ่ายได้ ซึ่งก็จะเป็นภาพ Selfie คุณภาพสูงสุดจากมือถือรุ่นนี้

และร่วมมือกับแบรนด์กล้องระดับโลก Hasselblad ทำให้ได้สีที่เป็นธรรมชาติและเป็นเอกลักษณ์ ในหลายโหมดการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Hasselblad Professional Mode ที่ใช้ควบคุมทุกรายละเอียดการใช้งานกล้องด้วยตัวเอง หรือ XPAN Mode ที่ขยายขอบเขตการมองเห็นให้เหมือนภาพฟิล์มกว้างพิเศษไม่เหมือนใคร ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากกล้อง Hasselblad XPAN

ประสิทธิภาพเครื่อง

OPPO Find N2 Flip ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 9000+ มาพร้อมแรม 8 GB และความจุ 256 GB (ไม่มีความจุอื่นให้เลือก) ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4,300mAh ใหญ่ที่สุดในโทรศัพท์ลักษณะนี้ ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเป็นสมาร์ตโฟนจอพับที่ชาร์จเร็วที่สุดด้วยเทคโนโลยี 44W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 เป็น 50% ได้ในเวลา 23 นาที และเต็ม 100% ภายในหนึ่งชั่วโมง

ราคาของ OPPO Find N2 Flip

สำหรับ OPPO Find N2 Flip สมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปรุ่นแรกจากออปโป้ มาใน 2 สี ได้แก่ สีม่วง Moonlit Purple และสีดำ Astral Black วางจำหน่ายในราคา 29,990 บาท

พิเศษสุด! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ OPPO Find N2 Flip ล่วงหน้าระหว่างวันนี้ – 23 มีนาคม 2566 รับฟรีทันทีของสมนาคุณรวมมูลค่าทั้งสิ้น 21,198 บาท ประกอบไปด้วย

  • OPPO Band 2 มูลค่า 2,999 บาท
  • OPPO Find N2 Flip Portable PU case มูลค่า 1,199 บาท
  • E-VIP CARD รับประกันจอแตก 2 ครั้ง ใน 1 ปี มูลค่า 17,000 บาท

OPPO Pad Air

พร้อมกันนี้ ออปโป้ยังได้เปิดตัวแท็บเล็ต “OPPO Pad Air” สีม่วงใหม่ ออกแบบพื้นผิวส่วนบนของฝาหลังแบบ Sunset Dune ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแถบเนินทรายยามพระอาทิตย์ตก ด้วยจุดเด่นของกระบวนการ Reno Glow พร้อมการเคลือบ 5 ชั้นและเทคโนโลยี 3D Finishing

แท็บเล็ตรุ่นนี้ยังอัปเกรดความจุเพิ่มขึ้นเป็น 4+128GB น้ำหนักเบาแค่ 440 กรัม ในขณะที่จอความละเอียด 2K ใหญ่ 10.36 นิ้ว มีขอบจอหนาแค่ 8 มม. ทั้ง 4 ด้าน และลำโพงสเตอริโอ 4 ตัวระบบ Dolby Atmos วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมในราคา 10,990 บาท

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส