หลังจากฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว Netflix เริ่มบอกเป็นนัยถึงแผนจำกัดการแบ่งปันรหัสผ่านระหว่างครัวเรือน ดูเหมือนตอนนี้ทุกอย่างจะเริ่มชัดเจนและใกล้เข้ามาทุกที เพราะสตรีมมิงวิดีโอชื่อดังจากอเมริกาเริ่มส่งจดหมายเรื่องนี้ถึงผู้ถือหุ้นบ้างแล้ว

เบื้องต้นในแถบละตินอเมริกา (ชิลี, คอสตาริกา และ เปรู) เน็ตฟลิกซ์เริ่มมีการปรับระบบจาก Family Plan เป็น sub-account กล่าวคือในบัญชีหลักจะสามารถเพิ่มบัญชีย่อยลงไปได้โดยเสียค่าบริการ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 90 – 100 บาท) โดยมีแผนจะเปิดตัวเรื่องนี้อย่างเป็นทางการภายใน Q1 ของปี 2023 หรือ 31 มีนาคมนี้  นั่นหมายความว่าหลังจากเมษายนเป็นต้นไปอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในหลาย ๆ บัญชี

ซึ่งจากการทดลองปรับรูปแบบการให้บริการ เน็ตฟลิกซ์คาดว่าช่วงแรกของการเปลี่ยนระบบใหม่จะทำให้หลายคนยกเลิกการใช้บริการเน็ตฟลิกซ์ แต่หากผู้ใช้เริ่มปรับตัวกับรูปแบบบริการใหม่ ๆ ได้แล้ว คาดว่ายอดต่าง ๆ จะเริ่มเติบโตกลับมาเช่นเดิม หรืออาจมากกว่าเดิม

โดยเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ หลงเฉิงอี้ (Chengyi Long) ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของ Netflix เขียนในแถลงการณ์เมื่อปีที่แล้วว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตัดสินใจลงทุนผลิตคอนเทนต์ ซึ่งก็เชื่อมโยงไปถึงเรื่องเม็ดเงินและการเก็บสถิติต่าง ๆ 

คำถามคือ Netflix จะตรวจจับการหารบ้านหรือแชร์รหัสผ่านอย่างไร… เน็ตฟลิกซ์เผยว่าจะใช้ที่อยู่ IP, รหัสอุปกรณ์ รวมไปถึงพฤติกรรมในบัญชี ว่าดูที่ไหน อย่างไร สอดคล้องกับนโยบายในปัจจุบันหรือไม่

ส่วนเรื่องราคา Netflix มีแผนจะขึ้นราคารายเดือนพื้นฐานจาก $8.99 เป็น $9.99 ในสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงบริการรายเดือนแบบใหม่ที่ราคาถูกลงเหลือ $ 6.99 แต่แลกกับการมีโฆษณาระหว่างดู… ก็น่าติดตามว่าทิศทางของ Netflix หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เป็นการเดินหมากที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมา (19 มกราคม 2566) Reed Hastings ผู้ก่อตั้ง Netflix ประกาศวางมือจากตำแหน่งซีอีโอ หลังกำไรลดลงมากถึง 90%

ที่มา: usatoday

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส