AWS (Amazon Web Service) ได้รวบรวมประสบการณ์กว่า 10 ปีเข้ากับเทคโนโลยีคลาวด์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่เพื่อเปิดตัวบริการใหม่สองอย่างได้แก่ AWS Bedrock และ Generative AI

ในปัจจุบันเทคโนโลยี AI มีอยู่อย่างแพร่หลาย และทุกคนก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย พร้อมกับนำมาใช้ประโยชน์เพื่อช่วยเหลือในการทำงานในด้านต่าง ๆ หนึ่งวิธีที่พบเห็นได้บ่อยคือการใช้ AI สั่งงานด้วยเสียงด้วยเครื่องมืออย่าง Alexa ที่สามารถสั่งเล่นเพลง หรือช่วยค้นหาข้อมูลให้เราได้

Amazon มีความมั่นใจว่า AI และระบบแมชชีนเลิร์นนิงจะเป็นคลื่นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้จากการพัฒนา Generative AI ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง ChatGPT และ Multi-model อย่าง Stable Diffusion

ทาง AWS ก็ได้เปิดตัว 4 นวัตกรรมที่รองรับเทคโนโลยี Generative AI ดังต่อไปนี้

  • AWS Bedrock บริการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI เชิงสร้างสรรค์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง และปรับแต่งแอปพลิเคชัน Generative AI ได้ตามใจชอบ โดยผู้ใช้สามารถสร้างชุดข้อความ, รูปภาพ, เสียง หรือข้อมูลสังเคราะห์ขึ้นมาจากคำสั่งของ AWS Bedrock อีกทั้งบริการนี้ยังสามารถเข้าถึงโมเดล AI ที่เรียนรู้จากข้อมูลที่รับมาได้ และเข้าถึงโมเดล AI จากสตาร์ทอัปด้าน AI ชั้นนำของโลกเช่น AI21, Anthropic และ Stability AI ตลอดจนไปถึงสิทธิพิเศษในการเข้าถึง Titan ของโมเดล Foundation
  • อินสแตนซ์ Amazon EC2 Inf2 ขับเคลื่อนด้วยชิปทรงพลัง AWS Inferentia 2 มาช่วยลดค่าใช้จ่ายจากปริมาณงานที่สูงจาก Generative AI
  • อินสแตนซ์ Trn1n ขับเคลื่อนด้วยชิปทรงพลัง AWS Trainium ซึ่งเป็นชิปซิลิคอนที่สามารถกำหนดให้ฝึกฝนโมเดลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  • Amazon CodeWhisperer เครื่องมือเขียนโค้ดที่มีคำแนะนำในระหว่างการเขียนโค้ดแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งให้ใช้งานได้ฟรี และขับเคลื่อนด้วย AI สามารถทดลองเขียนโค้ดได้ คลิกที่นี่

หากต้องการอยากจะเข้าใจ และรายละเอียดทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สามารถเข้าไปอ่านบทความของคุณ สวามี ศิวะสุบรามาเนียน (Swami Sivasubramanian) AWS VP of database, analytics และ machine learning คลิกที่นี่

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส