หลังจากที่นักแสดงเพื่อนซี้ ไรอัน เรย์โนลด์ส (Ryan Reynolds) และ ฮิว แจ็กแมน (Hugh Jackman) ได้ประกาศว่าทั้งคู่จะกลับมาปรากฏตัวร่วมกันในภาพยนตร์ ‘Deadpool & Wolverine’ ที่เราจะได้เห็นเรย์โนลด์สกลับมาวาดลวดลายลีลาฮีโรสุดห่ามตายยาก เวด วิลสัน (Wade Wilson) หรือเดดพูล (Deadpool) เป็นครั้งแรกในจักรวาล MCU และเราจะได้เห็นแจ็กแมนกลับมารับบทเป็น วูล์ฟเวอรีน (Wolverine) มิวแทนต์กรงเล็บเหล็กแห่งจักรวาล X-Men อีกครั้ง

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเราจึงได้เห็นทั้งคู่ปรากฏตัวผ่านโซเชียลมีเดีย รวมทั้งภาพจากเบื้องหลังหนังที่ปล่อยออกมาอยู่เรื่อย ๆ ตลอดเวลา และเราก็มักจะได้เห็นมิตรภาพของทั้งคู่ที่ออกแนวกวนเบื้องล่าง เน้นไปทางหยุมหัว รักกันดีตีกันตายอะไรแบบนั้นมากกว่า แต่ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ก็คือ แม้อายุของทั้ง 2 คนจะห่างพอสมควร (เรย์โนลด์ส อายุ 47 ปี ส่วนแจ็กแมน อายุ 55 ปี) แต่ทั้งคู่ต่างเป็นเพื่อนซี้กันมากกว่าที่เห็น

ในวาระที่หนัง ‘Deadpool & Wolverine’ จะได้เข้าฉายในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เพื่อนคู่ซี้เรย์โนลด์สและแจ็กแมน ได้มีโอกาสขึ้นปกนิตยสาร People ฉบับใหม่ล่าสุดที่จะวางแผงในเดือนมิถุนายนนี้ร่วมกันเป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งคู่ได้มีโอกาสเผยเรื่องราวของมิตรภาพที่ยั่งยืนยาวนานกว่า 17 ปี เรย์โนลด์สกล่าวสั้น ๆ ว่า “เราทั้งคู่ต่างก็พึ่งพาซึ่งกันและกัน เพื่อมอบคำแนะนำที่แท้จริงอย่างที่พวกเราต้องการ”

“อาจจะมีเพื่อนไม่กี่คนในชีวิต ที่คุณจะสามารถคุยอะไรด้วยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คุณรู้สึกผิด เรื่องโคตรน่าอาย หรือเรื่องอะไรก็ตาม” แจ็กแมนกล่าวเพิ่มเติม

เรย์โนลด์สเล่าถึงช่วงเวลาที่ทั้งคู่เจอกันครั้งแรกเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ในกองถ่าย ‘X-Men Origins: Wolverine’ (2009) ในเวลานั้น แจ็กแมนคือ Wolverine หนึ่งเดียวในจักรวาล X-Men ของ 20th Century Fox ที่ได้รับคำชื่นชม ส่วนตัวเขาเองที่เพิ่งมีผลงานแสดงในหนังบล็อกบัสเตอร์เรื่องแรก ต้องมารับบทเป็น Deadpool วายร้ายเวอร์ชันเถื่อนโหดไร้ปาก เรย์โนลด์สเล่าถึงบรรยากาศแรกตอนช่วงที่เขาต้องพา เบลก ไลฟ์ลี (Blake Lively) ภรรยา และลูก ๆ เดินทางไปยังกองถ่ายในซิดนีย์ ออสเตรเลีย

“ตอนที่ผมเดินในกองถ่ายเป็นครั้งแรก เป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของผม ผมรู้สึกทึ่งมาก แล้วผมก็กังวลชิบเป๋งเลย ผมเดินผ่านรถเทรลเลอร์ ผมรู้สึกเหมือนเป็นมือใหม่ รู้สึกเจ็ตแล็ก สับสน สติไม่อยู่กับตัว แถมไม่มีสคริปต์ให้อ่านด้วย ผมคิดแต่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

“แล้วผมก็ได้ยินคนเรียกชื่อ ‘ไรอัน!’ มาจากรถเทรลเลอร์เหล่านั้น ในขณะที่ผมกำลังเดินผ่าน และมันก็เป็นเสียงของนาย การที่นายรู้จักชื่อฉัน มันมีความหมายกับฉันมาก ๆ แล้วนายก็เข้ามากอดฉันแล้วบอกว่า ‘ยินดีที่ได้ร่วมงานนะพวก'”

“และอย่างที่นายรู้แหละว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมาก นายรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราโอเค รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่จะทำให้เราสบายใจ และฉันจำได้ว่านายเป็นเจ้าบ้านที่ดีแค่ไหน และฉันก็ได้เรียนรู้การเป็นผู้นำในกองถ่ายอย่างมากมาย การมีน้ำใจไม่ใช่แค่เปลี่ยนโชคชะตาเฉพาะแค่ของคุณได้ แต่มันเปลี่ยนทุกคนได้เลย”

“ฉันเห็นนายรู้จักชื่อทีมงานทุกคน และทีมงานทุกคนต่างมีการสนทนาที่มีประโยชน์ในทุก ๆ ส่วน การที่ฉันได้เห็นนายเข้าไปแทรกซึมในกระบวนการสร้างสรรค์เหล่านั้น มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากที่ฉันได้เห็น รวมทั้งทุกคนรอบ ๆ ตัวนายที่ได้เห็นด้วย ฉันคิดว่าถ้าหากใครโชคดีพอจะได้อยู่ในตำแหน่งเดียวกับฮิว แจ็กแมน สิ่งที่เหล่านี้คือบทเรียนที่คุณควรจำใส่เข้าไปใน DNA ของคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่มนุษย์จะทำได้”

แจ็กแมน: “ฉันจำวันแรกของหนัง ‘Deadpool & Wolverine’ ได้นะ ตอนนั้นนายเข้ามาแล้วทำแบบเดียวกับฉันตอนนั้นเลย มาเรียกฉันบอกว่า ‘สตีฟ!’ แล้วก็ไปเฉย…” (หัวเราะ)

เรย์โนลด์ส: “เฮ้ย นั่นใช่เกร็กมั้ย ?…ไม่ ! คนนี้ชื่ออะไรว้า…” (หัวเราะ)

หลังจากที่แจ็กแมนเก็บกรงเล็บเข้ากรุหลังจากสิ้นสุดบทบาทใน ‘Logan’ (2017) การกลับมารับบทเดิมหลังจากที่ห่างหายมานานนับ 10 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นความท้าทายที่เรย์โนลด์สต้องคิดให้ออกว่าจะทำอย่างไรให้การกลับมาของวูลฟ์เวอรีน ตัวละครที่หลายคนรักนั้นสมเหตุสมผล และคุ้มค่ากับการพากลับมาในยุคนี้ แจ็กแมนที่ต้องกลับไปฟิตร่างกายอย่างเข้มข้นอีกครั้งเล่าว่า

“ผมเคยไปถึงจุดนั้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ผมคิดว่าผมไม่สนุกเลย มันเจ็บมาก และมันก็ยากด้วยนะ แต่ว่าผมได้พักแล้ว ผมได้เต้นเยอะมาก ผมได้แสดงละครเวทีด้วย และพอกลับมาดูอีกที มันก็เป็นอะไรที่สนุกจริง ๆ”

เรย์โนลด์สหยอดยาหอมชมเพื่อนถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่น่าเชื่อ “เมื่อฮิว แจ็กแมน วิ่งมาหาคุณด้วยความเร็ว 150 ไมล์ออสเตรเลียต่อชั่วโมง คุณจะรู้สึกเลยว่า ไม่มีทางที่คุณจะไม่ตายภายใน 4 นาที และฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งเหล่านั้นเลย ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันสวมหน้ากาก เพราะใต้หน้ากาก ใบหน้าของฉันกำลังร้องว่า ‘โอ้พระเจ้า!'”

When you’re trying to record a heartfelt birthday message …. but are interrupted by the least greatest showman. @VancityReynolds pic.twitter.com/RwlE4IXFX1

— Hugh Jackman (@RealHughJackman) April 27, 2018

แม้ทั้งคู่จะชื่นชมกันเองไปมาจนเลี่ยน แต่อย่างที่เห็นกันว่า ในโซเชียลมีเดียของพวกเขามักจะโพสต์ภาพความสัมพันธ์แนวหยุมหัวกันเองอยู่บ่อย ๆ ตามวาระต่าง ๆ เช่นในปี 2018 ระหว่างที่แจ็กแมนกำลังร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับแฟน ๆ ดันมี Deadpool มาร้องเพลงขัดจังหวะเสียอย่างนั้น หรือตอนวันเกิดปีที่ 53 ของแจ็กแมนในปี 2021 เรย์โนลด์สได้โพสต์คลิปที่เขาใส่ถุงเท้าที่พิมพ์ลายใบหน้าของแจ็กแมนเพื่อเป็นการอวยพรผสมล้อเลียนตามสไตล์เกรียน ๆ

@vancityreynolds

Socks to be Hugh.

♬ A Million Dreams – Ziv Zaifman & Hugh Jackman & Michelle Williams

แต่ถึงจะหยุมหัวกันแค่ไหน ผู้กำกับอย่าง ชอว์น เลวี (Shawn Levy) เองก็ยืนยันว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์แบบที่เรียกว่า Bromance “แ-่งโคตร Bromance ของแท้เลยครับ พวกเขารักกันมาก ๆ พอ ๆ กับที่ผมกับไรอันรักกันเลย ความสัมพันธ์แบบโบรแมนซ์จะถูกเล่าขานไปชั่วกาลนาน”

แจ็กแมนเล่าย้อนไปถึงช่วงเดือนกันยายน ปี 2023 ก่อนหน้านั้น 1 เดือน แจ็กแมนเพิ่งผ่านช่วงเวลายากลำบาก เมื่อเขาต้องหย่าร้างกับภรรยา เดบอราห์-ลี เฟอร์เนส (Deborra-lee Furness) ที่แต่งงานใช้ชีวิตด้วยกันมายาวนานเกือบ 30 ปี จนกระทั่งอีก 1 เดือนถัดมา มีข่าวเผยให้เห็นภาพในขณะที่เรย์โนลด์สและไลฟ์ลี พาแจ็กแมนออกมาเดินเล่นกลางเมืองนิวยอร์กด้วยบรรยากาศแบบสบาย ๆ

แจ็กแมนเล่าถึงความน่ารักของเพื่อนซี้ว่า “ตั้งแต่ฉันรู้จักนาย และที่ฉันจะพูดเยอะเป็นพิเศษในช่วง 5 หรือ 10 ปีที่ผ่านมาก็คือ เรามีเวลามากขึ้นที่จะออกไปเดินเล่น เพราะนายเป็นผู้ฟังที่น่าเหลือเชื่อจริง ๆ ดังนั้น นายสามารถจะบอกเรื่องอะไรกับฉันก็ได้ และฉันก็สามารถบอกเรื่องอะไรกับนายก็ได้เหมือนกัน และฉันก็ไม่รู้สึกว่านายกำลังจะตัดสินหรือพยายามจะให้คำตอบกับฉันว่า ‘ต้องทำแบบนี้สิ’ และนั่นแหละคือกุญแจสำคัญของมิตรภาพเลยล่ะ”

เรย์โนลด์สก็เผยสูตรที่ช่วยรักษามิตรภาพของทั้งคู่ให้ยืนยาวจนมาถึงทุกวันนี้ “ผมคิดว่าเคล็ดลับของการสร้างมิตรภาพที่ยืนยาวในฮอลลีวูด มันก็ไม่ต่างอะไรกับการมีคู่ครองหรือการแต่งงานเลยครับ ที่ต้องทำก็คือ ฉันต้องคอยเป็นกำลังใจให้นายตลอดเวลา ฉันอยากให้นายชนะ…มันเหมือนกับที่ฉันรู้สึกแบบเดียวกับเบลกเลย ในขณะที่ฉันก็คอยเชียร์เธอ ฉันรู้ว่าเธอคอยให้กำลังใจฉันด้วย และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเชื่อมโยงกันได้”