เตือน ! ผู้มีสิทธิ “ถ้าไม่ไปเลือกตั้ง – ไม่แจ้งเหตุ” จะถูกจำกัดสิทธิตามกฎหมาย

กำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ. 2569 ใกล้เข้ามาทุกที โดย กกต. ได้ประกาศให้มีการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ 20 ธ.ค. 2568 – 5 ม.ค. 2569 ซึ่งจะจัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 1 ก.พ. 2569 นั้น

การเลือกตั้งถือเป็นหน้าที่ของพลเมืองที่ต้องร่วมกันออกมาใช้สิทธิเพื่อใช้คะแนนเสียงชี้ทิศทางของประเทศ แต่หากไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ กกต. ก็กำหนดให้สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากมีเหตุอันสมควร

แต่หากไม่ไปเลือกตั้ง และไม่แจ้งเหตุที่ไม่ไปเลือกตั้งด้วยจะถือว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการออกเสียงในการทำหน้าที่พลเมืองไทย ซึ่งจะมีผลกระทบด้านกฎหมายในด้านการถูกจำกัดสิทธิสำคัญหลายประการ

การแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เนื่องจากมีเหตุอันสมควร ให้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หรือภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง เท่ากับว่าสามารถดำเนินการแจ้งเหตุได้ทั้งหมด 14 วัน (ไม่รวมวันเลือกตั้ง) คือ 1 – 7 ก.พ. 2569 และ 9 – 15 ก.พ. 2569

โดยทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน โดยวิธีการสามารถทำได้ ดังนี้

1. แจ้งด้วยตนเอง
2. มอบหมายให้บุคคลอื่นไปยื่นแทน
3. จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
4. การแจ้งเหตุผ่านเว็บไซต์ www.ect.go.th หรือ แอปพลิเคชัน Smart Vote
5. ทางเว็บไซต์สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย (https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/abscausess/)

ไม่ไปเลือกตั้ง – ไม่แจ้งเหตุ ถูกจำกัดสิทธิทันที

หากไม่ไปเลือกตั้ง และไม่แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปเลือกตั้ง สส. ได้นั้น จะทำให้ผู้มีสิทธิถูกจำกัดสิทธิดังนี้

1. ไม่สามารถยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2. ไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหาร ท้องถิ่นหรือสมัครรับเลือก
เป็นสมาชิกวุฒิสภา
3. ไม่สามารถสมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะการปกครองท้องที่
4. ไม่สามารถดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภา
ฝ่ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา
5. ไม่สามารถดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

6. การถูกจำกัดสิทธิ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ผู้มีสิทธิไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิควรตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเองในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งความพร้อมในการเดินทางไปเลือกตั้งทั้งในเขต นอกเขต และนอกราชอาณาจักร, เอกสารที่ต้องใช้, สถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า – วันจริง รวมถึงหากไม่สามารถเลือกตั้งได้ต้องแจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้งเพื่อไม่ให้เสียสิทธิในทางกฎหมาย