ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าน่าจะได้ผ่านตากับเหตุการณ์รถ BYD คว่ำกลางทุ่งนา และมีเจ้าของรถออกมาร้องทุกข์ในกลุ่ม BYD Club Thailandว่า รถเหยียบเบรกแล้วไม่ทำงาน ทำให้เกิดอุบัติเหตุตัวรถพุ่งลงข้างทางดังภาพที่เห็น แต่ภายหลังมีการเกิดเปิดเผยข้อมูลการขับขี่จากตัวรถออกมา พบว่าสาเหตุที่แท้จริงอาจมาจากการเหยียบแป้นผิด จากเบรกไปเป็นแป้นคันเร่งต่างหากล่ะ

ต้นเหตุดังกล่าวมาจากโพสต์ของ Rumpaew Kruemklang ในกลุ่ม BYD Club Thailand ว่า “ขับรถไปแล้วเบรคไม่ทำงานความเร็วอยู่ประมาณ20ถึง30นี่แหละแล้วหน้าจอก็มีข้อความขึ้นบนจอกะพริบๆเราเหยียบเบรคสามครั้งแต่ก็ยังเบรคไม่ได้แต่ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นมาเองจาก 20มา30จนถึงประมาณ120 โดยที่เราไม่ได้แตะคันเร่งเลยจนนำมาถึงอุบัติเหตุในครั้งนี้ แต่ก่อนหน้านั้นรถเรามีปัญหา มีเสียงดังที่พวงมาลัยและเบรคเราเอารถเข้าศูนย์แล้วทางศูนย์เขาบอกว่าปกติอยากรู้ว่าทุกคันเป็นเหมือนเราไหมพวงมาลัยจะดังทุกครั้งเวลาที่เลี้ยวเข้าซองหรือถอยจอด ปัญหาล่าสุดจอดติดไฟแดงแล้วเร่งไม่ขึ้นรถนิ่งสนิทโดนบีบแตรไล่ตูดประมาณ 2 นาที 3 นาทีแล้วถึงออกตัวได้ เราไม่ดื่มเหล้าไม่เมาจ้า”

ภาพจากเฟซบุ๊กของ ชัยชนะ เจริญยนต์

ต่อมาได้มีการเปิดเผยคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนจะเกิดเรื่อง รวมถึงข้อมูลการขับขี่จากตัวรถที่ระบุทั้งความเร็ว ระดับการเหยียญคันเร่งและเบรก ไปจนถึงเกียร์ที่ใช้งานด้วย จากเฟซบุ๊กของชัยชนะ เจริญยนต์ ซึ่งระบุการกดคันเร่งเบอร์ 2 ไปถึงเบอร์ 10 ทำให้ความเร็วตัวรถเพิ่มขึ้นจาก 10 กม./ชม. ไปถึงระดับ 40 กม./ชม. จากนั้นได้มีการยกคันเร่งลงมาเบอร์ 8 ก่อนจะกดลงไปอีกครั้งที่เบอร์ 10 ทำให้มีความเร็วระดับ 71 – 78 กม./ชม. และตัวรถจึงเปลี่ยนเป็นเกียร์ N (หลังจากเบรกฉุกเฉินทำงาน) ก่อนจะเข้าสู่เกียร์ Parking เมื่อรถหยุดนิ่งแล้ว

หากพิจารณาจากข้อมูลระบุเวลาขับขี่ระหว่าง 17:40:51 จนถึงเกิดเหตุประมาณ 17:41:14 เป็นเวลาประมาณ 25 วินาที ผู้ขับขี่มีการกดขับขี่ต่อเนื่องไปถึง 3 ครั้ง และผ่อนคันเร่ง 1 ครั้ง จึงทำให้ตีความได้ว่า ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุนั้น ผู้ขับขี่อาจจะเหยียบแป้นผิดไปกดคันเร่งมิดแทน ทำให้ความเร็วตัวรถพุ่งไปถึงระดับเกือบ 80 กม./ชม. เลยทีเดียว

ล่าสุดทางเจ้าของรถ BYD หรือ Rumpaew Kruemklang ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์นี้ภายหลังได้พูดคุยกับทางบริษัท REVER Automotive ผู้จัดจำหน่ายรถ BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วว่า “ผลสรุปว่ารถปกติทุกอย่างเนื่องจากเส้นทางที่เป็นหลุมขนาดใหญ่อาจจะทำให้เท้าเราย้ายไปเหยียบคันเร่งโดยที่เราไม่รู้เลยทำให้รถเกิดอุบัติเหตุ” ส่วนทาง REVER ยังไม่ได้ออกมาแถลงเป็นทางการแต่อย่างใด เราต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร…เอ๊ะ หรือจบแล้วนะ