หลายวันก่อน BYD ปรับราคาแบตเตอรี่ลงกว่า 40% ซึ่งทำให้ราคาแบตเตอรี่จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 500,000 – 650,000 บาท ลดลงมาเหลือ 300,000 – 450,000 บาท นั่นหมายความว่าต้นทุนของรถ EV จะถูกลงตามไปด้วย ไปจนถึงราคาค่าซ่อมเองก็จะลดลงตามไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม BYD ไม่ได้แจ้งสาเหตุที่ว่าทำไมถึงลดราคาแบตเตอรี่ได้มากขนาดนั้น เป็นเพราะว่าขายได้กำไรเยอะจริงหรือไม่

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ BYD ปรับราคาแบตเตอรี่ลงได้ เพราะราคาวัตถุดิบที่นำมาทำแบตฯ อย่างลิเทียมลดลงกว่า 6 เท่าด้วยกัน หากพิจารณาราคาลิเทียมในตลาดจะเห็นว่ามีการดีดตัวสูงขึ้นจากตันละ 200,000 หยวน ไปสู่ระดับ 500,000 หยวน ในปี 2022 และแทบจะทำ All time high ที่ประมาณตันละ 600,000 หยวนในปี 2023 หลังจากนั้นค่อย ๆ ลดลงมาแตะระดับ 200,000 หยวนอีกครั้ง

ทว่าในปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 97,500 หยวน (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2024) และมีท่าทีลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งจะเห็นว่าราคาของลิเทียมเคยลงไปแตะระดับตันละ 39,500 หยวน ช่วงกลางปี 2020 ก่อนหน้าที่กระแส EV จะได้รับความนิยมและความต้องการลิเทียมเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปี 2022

ทั้งนี้ประเทศที่สามารถผลิตลิเทียมได้มากที่สุด 3 อันดับแรกของโลก ได้แก่ ออสเตรเลีย ผลิตได้มากกว่า 86,000 ล้านตันต่อปี (สถิติปี 2023) โดยเหมืองแร่ลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียจัดการโดยบริษัท Talison Lithium, Tianqi Lithium (บริษัทจีน) และ IGO อันดับสองเป็นของประเทศชิลี ผลิตได้มากกว่า 44,000 ล้านตันต่อปี และอันดับสามคือจีน ผลิตได้มากกว่า 33,000 เมกะตันต่อปี ซึ่งแหล่งแร่ลิเทียมขนาดใหญ่เพิ่งถูกค้นพบที่เมืองเสฉวนในช่วงต้นปี 2024

The Greenbushes เหมืองแร่ลิเทียมใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ที่ออสเตรเลียตะวันตก

จะเห็นได้ว่า แม้จีนจะสามารถผลิตลิเทียมได้เป็นอันดับ 3 ของโลก แต่จีนเองก็มีหุ้นส่วนในเหมืองแร่ลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียด้วยเช่นกัน ทำให้จีนอาจเป็นผู้ครอบครองลิเทียมมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก จนอาจกลายเป็นผู้ควบคุมราคาลิเทียมและสงครามราคา EV ได้ จึงเป็นสาเหตุให้ทำไมสหรัฐฯ และยุโรปต้องกีดกั้นจีนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการขึ้นภาษีนำเข้ารถ EV จีนและมาตรการด้านภาษี

ทั้งนี้ราคาลิเทียมที่ปรับตัวลง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าราคาของลิเทียมอาจจะกลับไปสู่ภาวะสงบนิ่งหรือราคาที่ควรจะเป็นอีกครั้ง สอดรับกับทิศทางการพัฒนาแบตเตอรี่รถ EV ที่หันไปหาแร่ธาตุชนิดอื่นมากขึ้น อย่างแบตเตอรี่โซลิดสเตต ทำให้ความต้องการลิเทียมในอนาคตอาจลดลงกว่าเดิม ส่งผลไปถึงราคาของลิเทียมที่อาจจะลดลง และราคาแบตเตอรี่รถ EV ถูกลงตามไปด้วยก็เป็นได้