ทีมงานแบไต๋ได้มีโอกาสไปร่วมทดสอบ ORA Good Cat GT จาก Great Wall Motor (GWM) รถยนต์ไฟฟ้าฉบับน้องแมวพันธุ์ซิ่ง แมวแรงสูงที่สุดในตระกูลที่จำหน่ายในไทยตอนนี้มาครับ ซึ่งทดลองขับในเส้นทางกรุงเทพ-ศรีราชา เพื่อทดสอบสมรรถนะรถ และนี่คือสิ่งที่เรารู้หลังจากทดลองขับในครั้งนี้ครับ

ความแตกต่างระหว่าง ORA Good Cat และ Good Cat GT

Good Cat 500 UltraGood Cat GT
พละกำลังมอเตอร์105 kW (143 PS)
แรงบิดสูงสุด: 210 nM
126 kW (171 PS)
แรงบิดสูงสุด: 250 kW
พร้อม Launch Control
เหยียบ 0-100 กม./ชม.9.2 วินาที8.5 วินาที
สีสันตัวรถมีให้เลือก 7 สีสีเทา Aqua Grey สีเดียว
ตกแต่งภายนอกล้อ 18 นิ้วพร้อม Caliper สีเงินล้อ 18 นิ้วพร้อมสีเน้นและ Caliper สีแดง
ตกแต่งภายในเลือกได้ 3 สีตกแต่งสีดำแดง
ที่บังแดดพร้อมกระจกและไฟในตัว
เบาะคู่หน้าปรับและนวดไฟฟ้าเฉพาะคนขับปรับและนวดไฟฟ้าทั้งคู่
ล้อแต่งแต้มด้วยสีแดง
ล้อแต่งแต้มด้วยสีแดง
ด้านท้ายของรถ ORA Good Cat GT ที่ตกแต่งอย่างสปอร์ต
ด้านท้ายของรถ ORA Good Cat GT ที่ตกแต่งอย่างสปอร์ต

ส่วนสิ่งที่เหมือนกันคือระยะทางวิ่งหลังชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม ที่วิ่งได้ 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) โดย Good Cat GT มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 63.139 kWh แบบ Lithium Ternary และช่วงล่างแบบเดียวกันกับ Good Cat 500 Ultra โดยอยู่บน Lemon E platform พื้นฐานการสร้างรถไฟฟ้าของ ORA

ประสบการณ์การขับขี่

ทีมงานแบไต๋ได้ร่วมทดสอบกับทีมงาน Tsuit ที่สุดของเรื่องรีวิว ซึ่ง ORA Good Cat GT ก็ให้ประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจ จังหวะการออกตัวหรือเร่งแซงก็ได้ความรู้สึกแบบหลังติดเบาะตลอด ให้การตอบสนองได้รวดเร็ว ซึ่งเราก็มีโอกาสได้ลองการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ก็ทำเวลาได้ราว 8.3 วินาที ก็ถือว่าเร็วกว่าสเปกระดับหนึ่ง

จังหวะทดสอบความเร็ว 0-100 ของ ORA Good Cat GT

ORA Good Cat GT มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และความปลอดภัยสำหรับขับขี่อัตโนมัติในระดับ L2+ ครับ ก็ประกอบด้วยระบบช่วยเหลือมากมาย เช่น ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบเข้าโค้งอัจฉริยะ, ระบบเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ เป็นต้น ซึ่งระหว่างที่ขับขี่ก็จะรู้สึกว่าพวงมาลัยมีแรงต้านเพื่อดึงกลับเข้าเลนอยู่บ้างเวลาขับหลุดจากเลน นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ เมื่อขับรถด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. ระบบจะบันทึกเส้นทางในช่วง 50 เมตรล่าสุดไว้ เพื่อถอยหลังออกมาตามเส้นทางที่ขับเข้าไป

รอบรถมีกล้องอยู่ 4 ตัว ทั้งหน้า-หลัง-ซ้าย-ขวา เพื่อแสดงภาพรอบคันมาที่หน้าจอกลางของรถ ซึ่งสามารถแสดงได้ทั้งภาพแบบ Bird Eye View เห็นพื้นถนนรอบคัน แสดงโมเดล 3 มิติของตัวรถที่เห็นรายละเอียดการเปิดประตูในจุดต่าง ๆ เหมือนรถจริงในขณะนั้น หรือแสดงเส้นนำทางการเลี้ยวได้ด้วย ถือว่าเป็นชุดกล้องที่มีประโยชน์มาก นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์ร้องเตือนสิ่งกีดขวางหลังรถด้วย

กล้องรอบคันของ ORA Good Cat GT ช่วยให้การขับรถในที่ยากๆ ทำได้ง่ายขึ้น
กล้องรอบคันของ ORA Good Cat GT ช่วยให้การขับรถในที่ยากๆ ทำได้ง่ายขึ้น

การทำความเร็วในระดับเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้มั่นคงดี สร้างความมั่นใจระหว่างการขับขี่ได้ เสียงลมจะได้ยินชัดเจนในรถตั้งแต่ความเร็วประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป

จุดที่ไม่คุ้นเคย

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างผู้เขียน ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวและปรับรูปแบบการขับขี่ของรถให้เหมาะสมอีกพักหนึ่ง โดยเฉพาะการเลือกระดับการเรียกคืนพลังงานให้เหมาะสมกับรูปแบบการขับ โดยถ้าเป็นคนที่เน้นขับรถแบบปล่อยไหลเหมือนผู้เขียน ถ้าใช้ระดับการเรียกคืนพลังงานเป็นสูง จะทำให้รถชะลอลงเยอะเหมือนถอนคันเร่งคือเบรกเลย ซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่เน้นการเหยียบเลี้ยงความเร็วรถ นอกจากนี้คันเร่งยังสามารถเลือกโหมด Intelligent Single Pedal ที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่ได้ ในกรณีที่ต้องการเร่งและชะลอรถด้วยแป้นเดียว

โดย Good Cat GT มีโหมดขับขี่ให้เลือก 5 แบบคือโหมดมาตรฐาน, สปอร์ตที่จะตอบสนองได้ไวขึ้น, Eco และ Eco+ สำหรับการประหยัดพลังงาน และโหมดอัตโนมัติที่ปรับรูปแบบการทำงานเอง

หน้าจอแสดงสถานะการขับขี่และก้านไฟเลี้ยวที่สลับข้างของ ORA Good Cat GT
หน้าจอแสดงสถานะการขับขี่และก้านไฟเลี้ยวที่สลับข้างของ ORA Good Cat GT

อีกจุดหนึ่งที่ยังไม่คุ้นเคยคือก้านควบคุมที่ไฟเลี้ยวจะควบคุมด้วยก้านซ้าย ส่วนใบปัดน้ำฝนจะควบคุมด้วยก้านขวา ซึ่งถ้าขับ ORA Good Cat เป็นรถคันหลักคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าสลับขับหลายคัน แล้วคันอื่นกลับข้างกันก็ต้องอาศัยเวลาสร้างความคุ้นเคย ส่วนเกียร์ Electronic Shifter ก็เป็นแบบหมุน R-N-D ที่ใช้ง่าย เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเบรกมือไฟฟ้าและระบบหยุดรถอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง

เกียร์ของ ORA Good Cat GT
เกียร์ R-N-D แบบหมุน พร้อมเบรคมือไฟฟ้าและ Auto-Brake Hold

นอกจากนี้ ORA Good Cat GT ไม่มีใบปัดน้ำฝนด้านหลัง ซึ่งระหว่างที่ขับทดสอบก็อยู่ในช่วงฝนตกหนักพอดี ซึ่งทำให้มองด้านหลังผ่านกระจกได้ยากหน่อยเพราะน้ำฝนเกาะเต็มกระจกหลังครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกของ Good Cat GT

หลังจาก Sunroof ของรถ
หลังจาก Sunroof ของรถ

ORA Good Cat GT มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบคัน ตั้งแต่หลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ประตูท้ายก็เปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี อำนวยความสะดวกผู้ถือของหนัก เบาะที่นั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมนวดไฟฟ้าได้ในตัว แถมมีฟังก์ชัน Welcome Seat ที่เบาะจะปรับตำแหน่งให้เข้า-ออกจากรถได้ง่าย

ที่น่าสนใจคือที่บังแดดคู่หน้าพร้อมกระจก ยังมีไฟส่องสว่างอยู่รอบกระจกเพื่อให้ส่องเห็นใบหน้าได้ชัดเจน เรียกได้ว่าทำออกมาเอาใจคุณผู้หญิงสุดๆ (ถึงจะเป็นรุ่น GT ที่เน้นความแรงก็เถอะ ซึ่งไฟนี้รุ่น 500 ไม่มีนะ)

ที่บังแดดพร้อมไฟ LED ส่องให้มองใบหน้าได้ชัดเจน
ที่บังแดดพร้อมไฟ LED ส่องให้มองใบหน้าได้ชัดเจน

ในส่วนของหน้าปัดและระบบ Infotainment เป็นหน้าจอแบบ Interactive Double Screen คือหน้าจอคู่ที่ส่วนแสดงผลการขับขี่เป็นจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว สามารถแสดงผลได้สวยงาม มีกราฟิกเข้าใจง่าย แต่หน้าจอทั้งคู่นี้ไม่มีที่บังแสงด้านบน ทำให้เวลาขับตอนกลางวันจะมีแสงสะท้อนบ้าง และถ้าแดดแรงจะมองหน้าจอยากขึ้น

ส่วนระบบแผนที่นำทางของตัวรถ ใช้งานง่าย แนะนำเส้นทางละเอียด มีแจ้งเตือนทางร่วมทางแยกต่าง ๆ พร้อมขึ้นภาพประกอบลักษณะทางแยกต่าง ๆ แถมมีเตือนความเร็วสูงสุดในถนนแต่ละเส้นด้วย โดยรถมีซิมอินเทอร์เน็ตติดมาแล้ว ทำให้ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ได้ แต่ตำแหน่งในแผนที่หรือ POI ยังน้อยกว่า Google Maps พอสมควร

แผนที่นำทางได้ชัดเจน มีเสียงภาษาไทยแจ้งเตือนตลอด
แผนที่นำทางได้ชัดเจน มีเสียงภาษาไทยแจ้งเตือนตลอด

ลำโพงในรถมี 6 จุด พร้อมระบบปรับแต่งเสียงจาก DTS ซึ่งเราไม่มีเวลาทดสอบการจูนหลาย ๆ รูปแบบ แต่ความประทับใจเบื้องต้นคือให้เสียงได้ชัดเจน เสียงเบสแน่นใช้ได้ รายละเอียดเสียงมีพอประมาณ แต่เท่าที่ฟังมาระยะหนึ่งจะรู้สึกว่าเสียงจากลำโพงด้านหลังจะดังกว่าด้านหน้า ทำให้สมดุลของเวทีเสียงเทไปด้านหลังรถมากกว่า

ตัวระบบมัลติมีเดียเองรองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งเราได้ทดลองใช้ CarPlay ใน Good Cat GT ต้องบอกว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง การแสดงผลสวยงาม การตอบสนองทำได้รวดเร็วพอสมควร ซึ่งเราได้ทดลองใช้ CarPlay ระหว่างการขับขี่ พบว่าการปรับระบบรถจะซับซ้อนขึ้นระดับหนึ่ง เช่นเมื่อนำทางด้วย Google Maps ผ่าน CarPlay แล้วต้องการปรับแอร์ในรถ ต้องกดหลายครั้งเพื่อผ่านหน้า CarPlay แล้วกลับมาที่หน้าหลักของรถ ถึงจะปรับระบบความเย็นได้ และระหว่างกลับไปที่หน้าหลักของรถ ถ้ามีการแจ้งเตือนเข้าที่ iPhone หน้าจอก็จะดีดกลับไปที่ CarPlay ทันที ทำให้ต้องกดกลับออกมาอีก

ราคาของ ORA Good Cat

ด้านหน้าของ ORA Good Cat GT
ด้านหน้าของ ORA Good Cat GT

ในส่วนของ ORA Good Cat รุ่นมาตรฐานทั้ง 3 รุ่นมีการปรับราคาใหม่หลังการลดลงของภาษีสรรพสามิตของรถยนต์ไฟฟ้าจาก 8 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 2 เปอร์เซ็นต์อย่างเป็นทางการ ทำให้ราคาของ ORA Good Cat ตั้งแต่เดือนมิถุยายน 2565 เป็นดังนี้

  • ORA Good Cat รุ่น 400 TECH จากราคา 828,500 บาท เป็นราคา 763,000 บาท
  • ORA Good Cat รุ่น 400 PRO จากราคา 898,500 บาท เป็นราคา 828,500 บาท
  • ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA จากราคา 1,038,500 บาท เป็นราคา 959,000 บาท

ลูกค้าที่สั่งจองรถไปและยังไม่ได้รับการสั่งมอบ ก็มีสิทธิ์ได้ราคาใหม่นี้ แต่ต้องรอดำเนินการทางภาษีอีก 3-4 สัปดาห์ ส่วนที่ต้องการรถเร็วขึ้น ก็สามารถยืนยันเป็นราคาเดิมก่อนปรับภาษีได้

ส่วนที่ ORA หยุดรับจอง Good Cat ทั้งหมดไปก็เพราะว่ามีจำนวนรถยนต์ไม่พอขาย เนื่องจากปัญหาเรื่อง Supply Chain และปัญหาที่จีนปิดประเทศ ซึ่งหลังจากประกาศราคาใหม่ออกมา ก็ยังไม่ได้เปิดรับจองชุดใหม่จนกว่าปัญหาจะคลี่คลาย โดยคาดว่ายอดจองกว่า 3,000 คันจะสามารถส่งมอบได้ทั้งหมดภายในปีนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ที่ ORA Black Cat จะทำตลาดในประเทศไทยหรือไม่ ผู้บริหารของ ORA ก็กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังศึกษาอยู่ เพราะ Black Cat เป็นรุ่นกลุ่มที่ถูกกว่า Good Cat ซึ่งตลาดรถไฟฟ้าหลักแสนกลาง ๆ เป็นตลาดที่แข่งขันกันรุนแรง จนอาจไม่คุ้มที่จะเข้าตลาดนี้ นอกจากนี้เทคโนโลยีของ Black Cat ยังเป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่เก่ากว่าตระกูล Good Cat ด้วย

ส่วนราคาของ ORA Good Cat GT อยู่ที่ 1,286,000 บาท ซึ่งถือว่ากระโดดจากรุ่น 500 Ultra พอสมควร

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส