กลับมาอีกครั้งกับการเปิดให้คุณได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 5G ล่าสุด ที่สามารถทำความเร็วได้สูงถึงระดับ 19 Gbps ตอกย้ำผู้นำเครือข่าย อันดับ 1 ของประเทศ ที่มุ่งพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อคนไทยอย่างต่อเนื่อง จัดทดสอบเทคโนโลยี 5G ให้คนไทยและภาคอุตสาหกรรมได้สัมผัสก่อนใคร เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุด AIS เดินหน้าสาธิตเทคโนโลยี 5G ครั้งที่ 2 ในชื่องาน “5G The 1st Live in Thailand by AIS : Episode 2 วันที่ 19 ธันวาคม 2561 – 15 มกราคม 2562 ที่ AIS D.C. ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม เพื่อเปิดประสบการณ์ 5G ให้คุณได้สัมผัสกันอีกครั้ง

Play video

Highlight เด่นในงานนี้

5G Super Speed

ร่วมทดสอบความเร็วของ 5G บนนวัตกรรมที่เหนือชั้นยิ่งกว่าจากเอไอเอสบนความเร็วสูงสุด รายแรกและรายเดียวของไทย กับความเร็วที่มากกว่า 19 Gbps เมื่อวันที่ 5G เข้ามาในประเทศไทยจริงๆ AIS จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วของ 5G มากขึ้นไปอีก โดยการนำเทคโนโลยี Multipath TCP หรือที่เรียกว่า NextG มาประยุกต์ใช้บนเครือข่าย 5G โดยสามารถที่จะรวมความเร็วของ 5G เข้ากับ AIS Super WIFI ได้ ทำให้ความเร็วของ 5G ตาม Standard เร็วเพิ่มขึ้นไปอีก โดยสามารถให้ความเร็วได้สูงสุดมากกว่า 19 Gbps ในชื่อใหม่ NextG+

5G Connected Drone

ระบบสาธิตการใช้งานโดรนในยุค 5G เพราะโดรนในยุคปัจจุบันมีการใช้งานผ่านคลื่นความถี่ WIFI ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางในการใช้งาน สามารถควบคุมได้แค่ระยะทางใกล้ ๆ ไม่เกินกว่าระยะสายตา และข้อจำกัดในเรื่องสัญญาณรบกวน แต่พอมาในยุค 5G ที่ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ จึงสามารถนำโดรนมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย เช่น การขนส่ง, การเกษตร, ความปลอดภัยสาธารณะ, การกู้ภัย, การตรวจดูงานในโรงงานหรือพื้นที่เสี่ยง เป็นต้น เพราะว่า สามารถควบคุมโดรนระยะทางไกลได้ผ่านเครือข่ายมือถือ ซึ่งคนควบคุมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดียวกับโดรน และสามารถ streaming video ที่มีความละเอียดสูงกลับมาหาผู้ใช้งานได้ทันที โดยจะมีการสาธิต การทดสอบการควบคุมสั่งการโดรนแบบข้ามประเทศระหว่างประเทศไทย และจีน ให้ชมเป็นครั้งแรกอีกด้วย

5G Cloud Virtual and Augmented Reality

อีก 1 เทคโนโลยีที่น่าสนใจกับการนำ Cloud มาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี AR และ VR ในยุค 5G ว่าจะมีประสิทธิภาพในการตอบสนองที่รวดเร็ว ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา เนื่องจากการประมวลผลถูกใช้งานผ่าน Cloud โดยเรื่องนี้ อาจจะถูกไปประยุกต์ใช้กับ การเล่นเกม, ซื้อของ online, การศึกษา, การอบรม เป็นต้น โดยในงานเราจำลองออกมา 2 รูปแบบดังนี้

  • Mix Reality World เป็นเกมยิงปืน ระหว่างผู้เล่น 2 คน โดยแต่ละคนสามารถเล่นอยู่คนละที่ แต่ผู้เล่นได้ประสบการณ์เสมือนจริงเหมือนอยู่ด้วยกัน เนื่องจากอุปกรณ์ของผู้เล่นสามารถรับส่งข้อมูลการเคลื่อนไหวของผู้เล่นอีกฝ่ายแบบเรียลไทม์ ไปประมวลผลที่ Cloud ผ่านเครือข่าย 5G
  • Smart Gloves เป็นเกมที่ผู้เล่นสร้างลูกบอลไฟและยิงลูกไฟผ่านเครือข่าย 4G เปรียบเทียบกับ 5G เพื่อแสดงการตอบสนองบน 5G ที่เร็วกว่า

5G Wireless to the home

พื้นที่แสดงศักยภาพของเทคโนโลยีบรอดแบนด์ไร้สายผ่านเครือข่าย 5G (5G WTTx) ช่วยเสริมบริการ Fibre broadband ให้ครอบคลุมมากขึ้น ที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกล หรือ พื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น เกาะ, ภูเขา, ชนบท เป็นต้น ที่มีข้อจำกัดในการเดินสาย โดยอุปกรณ์ที่จัดแสดงในงานนี้ เป็น CPE หรืออุปกรณ์รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตภายในบ้านที่รองรับคลื่นความถี่ 5G ย่าน mmWave เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก ตามมาตรฐาน 3GPP ซึ่งสเปคสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 2 Gbps เลยทีเดียว!

5G Internet of Things

โชว์แนวคิด 5G Internet of Things ผ่านเทคโนโลยี 5G V2X (Vehicle to Everything) เป็นเทคโนโลยีการสื่อสาร ระหว่างยานยนต์กับสิ่งต่างๆ โดยพื้นฐาน จะช่วยเรื่องความปลอดภัยในการคมนาคม, เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร และประหยัดพลังงาน โดยการสื่อสารผ่านเครือข่าย 5G จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์กับยานยนต์, ยานยนต์กับคนที่เดินบนท้องถนนผ่านอุปกรณ์อิเล็ทรอนิกส์, ยานยนต์กับโครงสร้างถนนหนทาง เช่น ไฟจราจร เป็นต้น และยานยนต์กับเครือข่ายการประมวลผลบน cloud ซึ่ง 5G V2X ยังถูกนำไปประยุกต์ใช้กับรถยนต์ไร้คนขับที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

คุณวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส

การสาธิตเทคโนโลยี 5G Episode 1 เป็นรายแรกของไทย ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จ และเป็นไปตามเป้าหมายของการศึกษา วิจัย เทคโนโลยี 5G ในมิติต่างๆ อย่างครบถ้วนและลึกซึ้ง ทั้งเรื่องความเร็ว, การตอบสนอง และการสนับสนุน IoT รวมถึง สร้างกระแสความตื่นตัวให้กับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม วงการการศึกษาและอีโคซิสเต็มของธุรกิจโทรคมนาคมเป็นอย่างมาก ในฐานะที่ 5G คือ โอกาสครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมชีวิตคนไทยและอุตสาหกรรมไปอีกขั้น โดยเราแสดงให้เห็นภาพการประยุกต์ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยการสาธิตในสภาวะแวดล้อมเสมือนจริง ทั้งการใช้อุปกรณ์ที่มี Handset 5G ต้นแบบ รวมถึง Terminal หลายรูปแบบ ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติมากกว่า และเห็นภาพการมอบประสบการณ์จริงไปยังผู้บริโภคได้ชัดเจนกว่า

Play video

ดังนั้น การทดสอบ 5G Episode 2 ในครั้งนี้ จึงมีแนวคิดที่แตกต่างและ Beyond มากขึ้น โดยเราตั้งใจที่จะศึกษา นำขีดความสามารถและศักยภาพของเอไอเอสที่มีอยู่ มาทดลองผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยี 5G เพื่อจะได้เห็นผลในเชิงรูปธรรมว่า ในวันที่ 5G มาจริงๆ เราจะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่แตกต่างจากรายอื่น และสร้าง more value ที่จะยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคนไทย และพลิกโฉมการทำงานของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมไปอีกขั้น และเพื่อเป็นการยืนยันว่า เอไอเอสไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาและแสวงหานวัตกรรมใหม่ๆ มาให้คนไทยได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่เหนือชั้นก่อนใครในโลก เตรียมพบกับการทดสอบ 5G Episode 3 ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอนคุณวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส กล่าวว่า

สำหรับท่านใดที่สนใจงาน “5G The 1st Live in Thailand by AIS : Episode 2″ สามารถเดินทางมาร่วมทดสอบของจริงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ AIS D.C. ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม วันที่ 19 ธันวาคม 2561 – 15 มกราคม 2562 คุณจะได้พบกับประสบการณ์ 5G สุดล้ำ ที่พร้อมให้ทุกท่านได้เข้ามาเรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยี 5G ได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ โดยมีทีมงานกูรูผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำอธิบายตลอดงานครับ