ในที่สุดก็มาเปิดตัวกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Huawei P40 Pro+ สมาร์ตโฟนซีรีส์กล้องเทพแห่งวงการมือถือรุ่นล่าสุด และ Huawei Mate Xs สมาร์ตโฟนสำหรับการทำงานโดยถ่องแท้ที่สานต่อการเป็นมือถือหน้าจอพับได้ที่ดีกว่าเดิม มาดูรายละเอียดกันว่าทั้งคู่มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง!

สเปกที่น่าสนใจของ Huawei P40 Pro+ 5G

  • หน้าจอ: Quad-Curved Overflow Display (หน้าจอโค้งลงทั้ง 4 ด้าน) หน้าจอประเภท Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1200, รีเฟรชเรตมากสุด 90Hz (ค่าเริ่มต้น 60Hz), รองรับ DCI-P3 HDR
  • กล้องหลัก: 5 ตัวในชื่อ Ultra Vision Leica Penta Camera ได้แก่
    • เลนส์ อัลตราไวด์ซีน (Ultra Wide Cine) ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 องศารับภาพ 18 มิลลิเมตร
    • เลนส์หลักอัลตราวิชันไวด์ (Ultra Vision Wide) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 มีกันสั่น OIS เซนเซอร์รับภาพ RYYB
    • เลนส์ระยะไกล Periscope ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/4.4, 10x Optical Zoom
    • เลนส์ระยะไกล ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 3x Optical Zoom
    • เลนส์วัดระยะ 3D Depth
  • กล้องหน้า: 2 ตัวทำงานคู่กัน เลนส์หลักมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ส่วนอีกตัวเป็นเลนส์วัดระยะแบบอินฟราเรด
  • ชิปประมวลผล: Kirin 990 5G
  • RAM/ROM: 8GB/512GB รองรับ Nano Memory 256GB 
  • พอร์ตเชื่อมต่อ: USB-C
  • แบตเตอรี่: 4200 mAh รองรับชาร์จไว 40 วัตต์, ชาร์จไวผ่านแท่นชาร์จไวร์เลส และสามารถ Reverse wireless charging (ปล่อยกำลังไฟชาร์จให้มือถือหรืออุปกรณ์ที่รองรับระบบนี้ด้วยเช่นกัน)
  • สี: ขาว Ceramic White
  • ความปลอดภัย: สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และปลดล็อกด้วยใบหน้า

Huawei P40 Pro+ 5G มีดีไซน์โดดเด่นดึงดูดสายตานะครับโดยเฉพาะการปฎิวัติทำให้หน้าจอทั้ง 4 ด้านโค้งลงในชื่อ Quad-Curved Overflow Display โดยมีแผงหน้าจอเป็น Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว มีความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล หรือว่า FullHD+ ในขณะที่ฝาหลังก็ใช้วัสดุเป็นเซรามิกจริง ๆ ผ่านขั้นตอนนาโนเทคโนโลยี ให้สีขาวสนิทแต่คงความเงาไว้ได้อยู่ ก็จะให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม ไม่ได้ตั้งให้เป็นชื่อของสีรุ่นนี้เล่น ๆ (Ceramic White)

นอกจากนี้ Huawei P40 Pro+ 5G ส่วนเรื่องของยังมาพร้อมความเร็วในการเชื่อมต่อ 5G อย่างสมบูรณ์ด้วยชิปเซ็ตเรือธงอย่าง Kirin 990 5G และมีนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพเทียบชั้นกล้อง DSLR กับระบบกล้องหลัง 5 ตัว (Ultra Vision Leica Penta Camera) ครอบคลุมภาพทุกระยะ ได้แก่ เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (Ultra Vision Camera), เลนส์อัลตราไวด์ (Cine Camera) ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, เลนส์ระยะไกล (Super Zoom Periscope) ที่สามารถถ่ายภาพได้ Optical 10x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, เลนส์ระยะไกลอีกหนึ่งตัวที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูม Optical 3x โดยเลนส์ระยะไกลทั้งสองจะทำงานร่วมกันได้เพื่อทำให้สามารถซูมได้มากถึง 100 เท่า Digital Zoom และปิดท้ายด้วยเลนส์วัดระยะ Depth sensing camera

Huawei P40 Pro+ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 40,990 บาท แต่หากสั่งจองผ่านผู้ให้บริการฯ (AIS, Dtac และ TrueMove H) สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 24,990 บาท โดยจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 4 – 26 มิถุนายนนี้ ณ หัวเว่ย แบรนด์ช้อปหรือร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ทั้งบนช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยทุกการสั่งซื้อในช่วงพรีออเดอร์ จะได้รับของสมนาคุณพิเศษรวมมูลค่ากว่า 12,200 บาท (หูฟัง Huawei Free buds 3 และแท่นชาร์จไร้สาย Huawei Wireless Car Charger และปิดท้ายด้วย Huawei Exclusive Services)

สเปกที่น่าสนใจของ Huawei Mate Xs 5G

  • หน้าจอ: FullView Display ประเภท P-OLED หน้าจอหลักขนาด 6.6 นิ้วความละเอียด 2480 x 1148 หน้าจอด้านหลัง 6.38 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 892 พิกเซล เมื่อกางรวมกันจะมีขนาดหน้าจอที่ 8 นิ้วความละเอียด 2480 x 2000 พิกเซล, รีเฟรชเรต 60Hz
  • กล้อง: เลนส์หลัง 4 ตัว ได้แก่
    • เลนส์หลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
    • เลนส์ระยะไกลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, ช่วงรับภาพ 81 มิลลิเมตร มีกันสั่น OIS ซูม 3x แบบ Optical และไฮบริดที่ 5x
    • เลนส์อัลตราไวด์ ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์วัดระยะ TOF 3D
  • ชิปประมวลผล: Kirin 990 5G
  • RAM/ROM: 8GB/512GB
  • พอร์ตเชื่อมต่อ: USB-C
  • แบตเตอรี่: 4500 mAh รองรับชาร์จไว 55 วัตต์, ชาร์จไวผ่านแท่นชาร์จไวร์เลส และสามารถ Reverse wireless charging (ปล่อยกำลังไฟชาร์จให้มือถือหรืออุปกรณ์ที่รองรับระบบนี้ด้วยเช่นกัน)
  • สี: น้ำเงิน Interstellar Blue
  • ความปลอดภัย: สแกนายนิ้วมือข้างเครื่อง

Huawei Mate Xs สมาร์ตโฟนจอพับได้ที่การกลับมาครั้งนี้ได้อัปเกรดให้ตัวเครื่องแข็งแรงมากขึ้นด้วยวัสดุเซอร์โคเนียม (zirconium-based liquid metal) ที่แข็งแรงกว่าอลูมิเนียมอัลลอยถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหน้าจอเป็น Double Layer Optical Polyimide ที่ให้ความทนทานเช่นกัน ดีไซน์โครงสร้างโพลีเมอร์สองชั้น ให้ความยืดหยุ่นพิเศษ สามารถกางจอได้ถึง 180 องศาและให้หน้าจอกว้างสุดถึง 8 นิ้ว ซึ่งก็จะทำให้การใช้งานหลากหลายรูปแบบมีประสบการณ์ที่ดีและเต็มตา (การทำงาน อ่านหนังสือ การรับชมความบันเทิง หรือเล่นเกม) และด้วยด้วยชิปเซ็ตเรือธง Kirin 990 5G ก็จะมีการประมวลผลแบบ 8 แกนและรองรับการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย 5G อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกย่านความถี่ (1, 3, 28, 38, 41, 77, 78, 79 SA/NSA)

ตัวเครื่องจัดกล้องมาให้ 4 เลนส์หลัง ได้แก่ เลนส์หลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, เลนส์อัลตราไวด์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, เลนส์ถ่ายระยะไกลเทเลโฟโต้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 พร้อมมีระบบกันสั่นแบบ OIS และปิดท้ายด้วยเลนส์วัดระยะจากทาง Huawei ในชื่อ Time-of-Flight (TOF) ที่ก็มีกันสั่น OIS+AIS สามารถขับเลนส์ระยะไกลให้ถ่ายภาพแบบ Optical zoom ได้ 3 เท่า, Digital zoom ได้ 30 เท่า ซูมแบบ Hybrid ได้สูงสุด 45 เท่า

Huawei Mate Xs 5G สี Interstellar Blue เริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ในราคา 89,990 บาท ณ หัวเว่ย แบรนด์ช้อปเฉพาะสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการที่ได้รับเลือกจำนวน 21 แห่ง ทั่วประเทศ โดยทุกการสั่งซื้อ Huawei Mate Xs 5G จะได้รับของสมนาคุณพิเศษ มูลค่ารวม 21,900 บาท (เคสหนัง Premium Leather Case, Folding Protective Case, และบริการ Exclusive Services)

และหากใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของทั้งสองเครื่อง ก็สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โปรโมชันและสิทธิพิเศษ ของ Huawei P40 Pro+ 5G และ Huawei Mate Xs 5G ได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย): https://consumer.Huawei.com/th/

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส