ปัจจุบันบริษัทสัญชาติจีนกำลังถูกคุกคามโดยสหรัฐอเมริกาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะ Huawei, ZTE หรือ TikTok แถมล่าสุดมีประกาศว่ารัฐบาลกำลังเล็งบริษัทอื่นซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น Alibaba ต่อ นับตั้งแต่ตั้งข้อกล่าวหา Huawei ตั้งแต่ปีที่แล้ว สหรัฐฯ​ ก็ยังไม่เคยโชว์หลักฐานอะไรออกมาสักที แต่รู้หรือไม่ว่าสหรัฐฯ นี่แหละที่เคยขโมย Source code ของ Huawei และพยายามยัด back door ให้ด้วย

เมื่อราวปี 2014 มีหลักฐานที่ถูกเผยแพร่โดย Edward Snowden ระบุว่า NSA (National Security Agency หรือสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ) มีปฏิบัติการลับที่มีชื่อว่า Shotgiant ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ Huawei โดยเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารการดำเนินงานที่สรุปว่า NSA สามารถแฮกเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของ Huawei และเข้าถึงอีเมลบริษัทรวมถึง Source code ที่จำเป็นได้

ในปีนั้น Huawei กำหนดเส้นทางอีเมลทั้งหมดผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียวในเซินเจิ้น ซึ่ง NSA สามารถเข้าถึง ดูดข้อมูล และเข้าถึงระบบการสื่อสารภายใน รวมถึงข้อมูลบางส่วนจากพนักงานกว่า 150,000 คน, CEO ของ Huawei หรือ Ren Zhengfei และประธานหญิง Sun Yafang โดย Der Spiegel อ้างอิงข้อความจากเอกสารของ NSA ระบุว่า “ข้อมูลที่ได้มามันเยอะมากจนเราไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี”

ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและ Huawei สามารถนิยามได้ง่าย ๆ ว่า “ไม่สวยนัก” ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 คณะกรรมการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกากล่าวว่าผู้ประกอบการโทรคมนาคมของอเมริกาว่าไม่ควรซื้ออุปกรณ์โครงข่ายจาก Huawei เนื่องจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดจากการแทรกแซงของรัฐบางจีน ทำเนียบขาวได้สั่งให้มีการทบทวนความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากการใช้อุปกรณ์ของ Huawei และซัปพลายเออร์โทรคมนาคมรายอื่นของจีน (เช่น ZTE) แต่จากการตรวจสอบที่กินระยะเวลาทั้งหมดถึง 18 เดือนพบว่าไม่มีหลักฐานว่า Huawei สอดแนมผ่าน Back door ในอุปกรณ์

เพื่อการเข้าถึงข้อมูลของอุปกรณ์ Huawei, NSA ได้พยายามติดตั้ง Back door ลงในอุปกรณ์ของ Huawei เมื่อบริษัทขายอุปกรณ์ให้กับประเทศหรือบริษัทอื่น ๆ NSA จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เช่นเดียวกัน โดย Bill Plummer โฆษกของ Huawei เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้ามันจริง ก็เป็นเรื่องน่าขันนะ สิ่งที่สหรัฐฯ พยายามกล่าวหาเรามาตลอดกลายเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ทำซะเอง”

ปัจจุบันปี 2020 แล้วสถานการณ์ของ Huawei ก็ยังไม่สู้ดีเลย นอกจากโดนแบนออกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ก็ยังไม่สามารเข้าถึงการใช้ชิปประมวลผลได้อีก ธุรกิจฝ่ายโทรศัพท์และอุปกรณ์พกพาได้รับผลกระทบเต็ม ๆ แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป Huawei ได้ก่อตั้งโครงการที่เน้นการพัฒนาโดยไม่พึ่งพาอุปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาด้วย อีกทั้งยังมีแผนเริ่มทำชิปเซ็ตด้วยตัวเองอีกต่างหาก

อ้างอิง Android Authority