เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แบไต๋ได้เข้าร่วมงาน “HUAWEI Meet the Press 2023 – Episode 1” และพบกับคุณเดวิด หลี่ (David Li) ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทยคนใหม่ ที่มาพร้อมกับยุทธศาสตร์พัฒนา 6 ด้านคือ

  1. 5G: ไทยเป็นผู้นำด้าน 5G ในภูมิภาคอาเซียนแล้ว
    • หัวเว่ยจะช่วยพัฒนาให้ไปถึงชนบทต่อไป และให้ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น
    • ซึ่งปีที่แล้วร่วมมือกับ 2 ท่าเรือ เพื่อให้การทำงานง่ายขึ้น
    • และร่วมงานกับ 6 โรงพยาบาล อย่างโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเป็นต้นแบบโรงพยาบาลอัจฉริยะ
    • เพื่อพัฒนาในแบบ Vertical ดึงเทคโนโลยีเด่นของแต่ละประเทศมาปรับใช้
  2. บริการ Cloud: ที่จะขยายในไทยมากขึ้น
    • Huawei เป็นผู้เล่นแรกๆ ของโลกในเรื่อง Cloud ที่ลงทุน 1.4 พันล้านบาทในไทย
    • บ่มเพาะคนไทยให้เติบโตไปกับ Cloud ด้วย โครงการ Spark Ignite ช่วยเหลือ Startup กว่า 1,700 ราย
  3. EBG (Huawei Enterprise Business Group): ช่วยอุตสาหกรรมในไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    • ทำงานร่วมกับหน่วยงานและบริษัทต่างๆ ในไทย
    • เป็นหน่วยหลักที่สำคัญมาก เพราะหัวเว่ยร่วมทำงานกับหน่วยงานอื่นๆ ในไทยมากมาย
  4. Green: ส่งเสริมเรื่องเป็นกลางทางคาร์บอน
    • นโยบายภาครัฐสนใจมากเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน
    • มีการทำ Solar Farmer, Commercial Roof ในอาคารต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีภาคครัวเรือนด้วย
  5. Cyber Security:
    • ผลักดันให้ไทยอยู่อันดับต้นๆ และอยู่ในมาตรฐานของ CyberSecurity Index
    • ทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) National Cyber Security Agency ในการบ่มเพาะเรื่องที่ควรตระหนักรู้
  6. การพัฒนาบุคลากร: ปลูกฝังบุคลากรในไทยมากขึ้น ทำให้คนพร้อมสำหรับเรื่องใหม่ ๆ
    • เทคโนโลยีไปเร็วมาก ICT ก็ต้องการบุคลากรเฉพาะทาง ทำให้สถาบันการศึกษาตามไม่ทัน หัวเว่ยจึงเข้าไปร่วมกับสถานศึกษา สร้าง Huawei Acadamy
    • ตั้งเป้าหมาย 50,000 คนภายใน 3 ปี
เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด
เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด

นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวถึงวิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สำหรับปี พ.ศ. 2566 ว่า “หัวเว่ยจะร่วมผลักดันประเทศไทยให้ขึ้นสู่การขึ้นเป็นดิจิทัลฮับแห่งอาเซียนและผลักดันภาคอุตสาหกรรมอัจฉริยะ โดยเริ่มจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อซึ่งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยและสามารถช่วยผลักดันการพัฒนาในภาคสังคมได้ ทั้งนี้ หัวเว่ยจะใช้เครือข่ายไฟเบอร์เพื่อเชื่อมต่อทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน และจะขยายความครอบคลุมของโครงข่ายเข้าไปในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งในปีนี้เราจะมุ่งขยายความครอบคลุมของโครงข่ายแบบไฟเบอร์ในชนบทของประเทศไทยและทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อให้สามารถส่งมอบบริการ 5G ที่มีคุณภาพและมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ หัวเว่ยจะสนับสนุนด้านการสร้างความตระหนักรู้เรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยการแบ่งปันองค์ความรู้และหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับเทคโนโลยี 5G ให้แก่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในไทย และลูกค้าของเรา รวมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องข้อมูลให้แก่โครงสร้างพื้นฐานไอซีทีในไทย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่อีโคซิสเต็มด้านไซเบอร์ของประเทศ ในด้านการปกป้องข้อมูล หัวเว่ยจะช่วยสนับสนุนธุรกิจและสตาร์ทอัพต่าง ๆ ในไทยให้มาปรับใช้คลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับดัชนีความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับโลก (GCI) ให้แก่ประเทศ”

เขายังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงเป้าหมายของหัวเว่ยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่เพียงความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญถึงคุณค่าทางสังคมและการบ่มเพาะบุคลากรในประเทศ โดยในปีนี้ หัวเว่ย ประเทศไทยจะมุ่งให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการสร้างบุคลากรไอซีทีในไทย โดยเฉพาะการมุ่งฝึกอบรมนักพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีให้ได้ถึง 20,000 คน ภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรม บ่มเพาะทักษะทางเทคโนโลยีที่มีความสำคัญให้แก่นักพัฒนาไทย และช่วยพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในไทย ผ่านการส่งมอบใบรับรองและต่อยอดโครงการด้านการฝึกอบรมต่าง ๆ ของหัวเว่ย เช่น โครงการบ่มเพาะธุรกิจเอสเอ็มอี Spark Ignite โครงการรถดิจิทัลเพื่อสังคมซึ่งจะต่อยอดให้ครอบคลุมในพื้นที่ 10 จังหวัด ฝึกอบรมนักเรียนให้ถึง 2,000 คน งานสัมมนา Talent Talk เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ด้านดิจิทัลจากภาคส่วนต่างๆ และโครงการ Seeds for the Future ที่จะมีทั้งการฝึกอบรม มอบทุนการศึกษา และการแข่งขันในกลุ่มเยาวชน เพื่อให้แรงงานไทยมีทักษะด้านดิจิทัล มีคุณภาพ และมีความพร้อมสำหรับตลาดดิจิทัลของไทยในอนาคต

และในปีนี้ หัวเว่ยมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและนักพัฒนาที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่ยนประเทศไทย โดยเฉพาะนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญด้าน “คลาวด์” และ “พลังงานดิจิทัล”

“นอกจากนี้ หัวเว่ย ประเทศไทย ยังจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้านพลังงานดิจิทัล และวางแผนจะขยายการเติบโตของกลุ่มธุรกิจพลังงานดิจิทัลให้เป็นผู้นำตลาดประเทศไทย เพื่อช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทย (GDP) ให้เพิ่มขึ้น เราเชื่อมั่นว่าเราสามารถช่วยสนับสนุนประเทศไทยได้ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ โซลูชัน และหลักปฏิบัติด้านพลังงานดิจิทัลของเรา ด้วยทีมบุคลากรและพาร์ตเนอร์ในประเทศระดับคุณภาพของเรา เราหวังว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีและหลักปฏิบัติในระดับโลกมาช่วยผลักดันให้ประเทศไทยในการมุ่งสู่ผู้นำในอาเซียนด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน” เขากล่าว

นายเดวิดกล่าวยังได้ปิดท้ายถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ย ประเทศไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาว่า หัวเว่ยได้ร่วมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมาโดยตลอด ครอบคลุมทั้งด้านการผลักดันโครงข่ายและการประยุกต์ใช้ 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ การติดตั้งศูนย์ข้อมูลคลาวด์ในประเทศไทยถึง 3 แห่งและการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์กว่า 300 ราย การนำโซลูชันเข้าประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมของไทยกว่า 10 ประเภท การผลักดันพลังงานดิจิทัลเพื่อช่วยสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย การร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการมีส่วนร่วมพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีไทยกว่า 60,000 ราย

นายเดวิด หลี่ เข้าร่วมงานกับหัวเว่ย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ในตำแหน่งวิศวกรแผนกวิจัยและพัฒนา จากการสั่งสมประสบการณ์ในอุตสาหกรรมไอซีที ผนวกกับความสามารถในการบริหารธุรกิจของหัวเว่ยในตลาดหลายประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่งผลให้เขาได้รับการยอมรับในฐานะผู้บริหารมากประสบการณ์ซึ่งโดดเด่นด้านการบริหารจัดการทีมงานในประเทศต่าง ๆ ทั้งในฐานะประธานกรรมการบริหารของตลาดประเทศกัมพูชาและอินเดีย ทั้งนี้ เขายังมีความเชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์ที่นำไปสู่การขับเคลื่อนธุรกิจของหัวเว่ยในตลาดหลายประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่อย่างเป็นทางการของบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด เขาจะนำความเชี่ยวชาญ ความเป็นผู้นำ และประสบการณ์การทำงานหลายสิบปี มาสานต่อพันธกิจ “เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย สนับสนุนประเทศไทย” เพื่อนำประเทศไทยสู่การเชื่อมต่ออัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเติบโตด้วยเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด
เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส