หลังจาก MINI เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าสองรุ่นแรกอย่าง Cooper SE และ SE LCI มาได้สักพัก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องระยะขับขี่ เนื่องจาก MINI เป็นรถขนาดเล็ก จึงมีพื้นที่วางแบตเตอรี่ไม่มา ระยะทางขับขี่ที่ได้จึงอยู่ในขอบเขต 200 กม. เท่านั้น แต่ล่าสุดเหมือนจะทะลุขอบเขต 300 กม. ได้เสียทีกับ MINI Aceman ที่เตรียมเปิดตัวในงาน Beijing Auto Show 2024 รวมถึงเข้าไทยช่วงปลายปีด้วย
MINI Aceman มีขนาดตัวรถ 4,075 x 1,754 x 1,495 mm และมีระยะฐานล้อ 2,606 mm ซึ่งจะมีขนาดตัวถังใหญ่กว่ารุ่น MINI Hatch แต่เล็กกว่า MINI Countryman แต่มีการเสริมวัสดุพิเศษที่กันชนหน้าหลัง ราวหลังคา ไฟท้ายสีไซน์ธง Union Jack ตามสไตล์ของ MINI ตำแหน่งของช่องชาร์จอยู่ทางด้านหลังฝั่งขวา
MINI Aceman มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่น Aceman กำลังสูงสุด 184 Ps แรงบิด 290 Nm แบตเตอรี่ SVOLT (แบตเตอรี่จาก GWM ที่ผลิตให้ BMW, MINI, XPeng, LiAuto, Geely, NETA และ Wuling ใช้ร่วมกัน) ขนาด 40.7 kWh ขับไกล 300 km (มาตรฐาน WLTP) มีอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.9s ทำความเร็วสูงสุด 159 km/h
และรุ่น SE ที่แบตใหญ่ขึ้นและกำลังสูงขึ้นเป็น 218 Ps แรงบิด 330 Nm แบตเตอรี่ขนาด 54.2 kWh ขับไกล 406 km (มาตรฐาน WLTP) มีอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.1s ทำความเร็วสูงสุด 170 km/h การชาร์จทั้งสองรุ่นรองรับชาร์จ AC ที่ 11 kW ส่วน DC เริ่มต้น 75 kW และ 95 kW ในรุ่น SE จาก 10 – 80% ภายใน 30 min
ภายในห้องโดยสารของ MINI Aceman มาพร้อมหน้าจอดิจิทัลทรงกลมขนาด 9.44 นิ้ว ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ MINI Operating System เจน 9 มีแผงปุ่มกดด้านล่างอยู่ และมีการใช้วัสดุรีไซเคิลเข้ามาช่วยประกอบตัวรถ มีระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติทำงานร่วมกับเซนเซอร์ 12 จุดและกล้องรอบคัน 4 ตัว จอดรถอัตโนมัติได้
MINI ACEMAN จะเริ่มการผลิตที่จีน และคาดว่าจะวางขายในช่วงปลายปี 2024 แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น รอชมคันจริงที่งาน Beijing Auto Show 2024 ระหว่างวันที่ 25 เมษายน – 4 พฤษภาคมนี้กันได้เลย
สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIST) พบว่าวิธีการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection สามารถนำไปแฮก AI เชิงสังเคราะห์ (GenAI) อย่าง ChatGPT ได้
Warner Bros. ได้เปิดเผยภาพชุดแรกของภาพยนตร์แอนิเมชัน 'The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim' ที่จะเข้าฉายในปี 2024 นี้
โดย GDP (Gross Domestic Product) คือมูลค่าทั้งหมดของสินค้าและบริการที่ผลิตภายในประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง (โดยปกติจะเป็นรายปีหรือรายไตรมาส) คำนวณด้วยสูตรสำหรับคำนวณ GDP คือ GDP = C + I + G + (X-M) ซึ่ง C คือการใช้จ่ายของผู้บริโภค I คือการลงทุนของธุรกิจ G คือการใช้จ่ายของรัฐบาล และ (X-M) คือการส่งออกสุทธิ
จึงถือได้ว่า GDP เป็นมาตรวัดสำคัญของขนาดและความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ยิ่งนำมาหารจำนวนประชากร ทำให้นำมาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นได้ชัดเจนขึ้นด้วยรายได้ต่อหนึ่งคนเหมือนกัน
แม้ว่า iPad Pro จะมาพร้อมกับสเปกสุดโหด แต่จุดอ่อนก็ยังคงเป็นตัว iPadOS เองที่ไม่สามารถทำงานในระดับเดียวกับ Mac ได้ ซึ่งแน่นอนแหละ หาก iPad ทำได้ขนาดนั้น คนจะซื้อ Mac ทำไม วันนี้ ...อ่านต่อ
แม้ว่า Sony จะเปิดตัว Reon Pocket แอร์พกพาติดตัวเพื่อคลายร้อนมาตั้งแต่ปี 2020 แล้ว แต่ก็ไม่เคยได้รับการทำตลาดอย่างเป็นทางการในไทยสักที ...อ่านต่อ
Vivo ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงสุดพรีเมียมในปี 2024 นั่นคือ X100 Ultra ที่มาพร้อมสเปกระดับท็อปอย่างที่สื่อคาดการณ์ไว้
OpenAI ประกาศเปิดตัวโมเดล GPT-4o (Omni) เป็นโมเดลภาษาที่มีความโดดเด่นเรื่องการประมวลผลอินพุตภาพและเสียง แบบเรียลไทม์ โดยเป็นโมเดลที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรีไม่ต้องจ่าย ChatGPT Plus ...อ่านต่อ
