ความสำเร็จสูงสุดของซีรีส์ที่เปิดตัวบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Disney+ นับจนถึงขณะนี้ (เพราะเรื่องอื่น ๆ ยังถ่ายทำไม่เสร็จดี) ก็คือ The Mandalorian ที่ครองอันดับ 1 ออริจินัลซีรีส์ที่มีผู้ชมบนสตรีมมิงมากที่สุดกว่า 100 ล้านวิว รวมถึงได้เข้าชิง 15 สาขารางวัล Emmy Awards ด้วย ซีซัน 2 ได้ฤกษ์ใกล้ออกอากาศให้ชมกันแล้ว 30 ตุลาคมนี้ แต่ผู้ชมคนไทยก็ต้องรอเพลงรอต่อไปก่อนเพราะ Disney+ ยังไม่เปิดให้บริการ (ล่าสุดเพิ่งเปิดบริการในประเทศอินโดนิเซียไป ของไทยก็อาจจะใกล้เข้ามาแล้ว)

ความสำเร็จของภาคแรกเกิดมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไล่ตั้งแต่การถ่ายทอดเรื่องราวที่ไม่หวือหวาแต่ตรงประเด็นจนได้รับการกล่าวขานว่า เรื่องราวของ Star Wars ได้กลับสู่รากเหง้าและการเดินเรื่องแบบต้นฉบับอีกครั้งหนึ่ง (หนังเป็นเรื่องราว 5 ปีหลังจากภาค Return of the Jedi (1983))ซึ่งก็ตกยกความดีความชอบให้กับผู้สร้างอย่าง Jon Favreau ผู้กำกับ Iron Man 1&2 (2008, 2010) และ The Lion King (2019) ให้กับ Disney และยังคงกลับมาควบคุมงานสร้างในซีซันที่ 2 นี้ด้วย นอกจากนั้น ซีรีส์ก็ยังจุดติดกระแสของเจ้าต้าวน้อล Baby Yoda สุดน่ารักที่ส่งให้คนดูเอาใจช่วยให้ Din Djarin ชาวแมนดาลอร์ให้สามารถช่วยเหลือน้อลจากการถูกเอาไปฆ่าในภาคหนึ่งมาได้สำเร็จ

Disney+ ได้ปล่อยตัวอย่างแรกของซีซันที่ 2 ออกมาแล้ว และก็ทำให้เห็นว่า ซีรีส์ยังคงรูปแบบการเล่าเรื่องแบบภาคแรกที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่สมกับที่เป็นหนึ่งในเรื่องราวของแฟรนไชส์อวกาศที่ยิ่งใหญ่ที่่สุด แต่ก็มีความลึกลับในสไตล์ทริลเลอร์ลุ้นระทึกปนอยู่ด้วย

มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า Boba Fett ที่แต่งตัวด้วยชุดคล้ายกับ Mandalorian และซีรีส์เชื่อมโยงไว้ว่าเป็นผู้มาจากเผ่าพันธุ์แมนดาลอร์เหมือนกัน (แต่ Jango Fett ผู้พ่อ และ Boba Fett นั้นแหกคอกออกจากกลุ่มไป เห็นได้จากการถอดหมวกปรากฏตัวหลายครั้ง ต่างจากชาวแมนดาลอร์ที่มีกฎห้ามถอดหมวกออกให้ใครเห็นเลย) อาจจะกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง

Boba Fett ปรากฎตัวครั้งแรกใน Star Wars: The Empire Strikes Back (1980) เขาเป็นนักล่าค่าหัวที่ Darth Vader ใช้ให้ไปตามจับ Han Solo ก่อนที่จะมาพบจุดจบระหว่างที่กำลังต่อสู้กับ Luke Skywalker จนพลาดตกลงไปในท้องสัตว์ประหลาด ในภาค Star Wars: Return of the Jedi (1983) ที่ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะรอดและไม่ตายจริง ๆ ก็ได้ แต่ในตัวอย่างก็เผย Easter Egg เป็นชุดของ Boba Fett ที่เคยได้รับการออกแบบไว้ผู้กำกับหนังที่เป็นนักออกแบบตัวละครในหนังด้วยอย่าง Joe Johnston (Captain America: The First Avenger) แฟน ๆ จาก Star Wars ยุคดั้งเดิมก็รอชมตัวละครตัวนี้ได้เลย

ในซีซันนี้บทนำยังคงเป็นคของ Pedro Pascal (Wonder Woman 1984) กับบทนักล่าค่าหัวชาวแมนดาลอร์ สมทบด้วย Gina Carano (Fast & Furious 6) ในบท Cara Dune คู่หูร่วบรมของ Din Djarin, Carl Weathers (Predator) ในบทสมาชิกสมาคมนักล่าค่าหัว และ Giancarlo Esposito (ซีรีส์ The Boy) ในบท Moff Gideon ตัวร้ายตัวใหม่ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเอพิโซดสุดท้ายของซีซัน 1

Gina Carano, Pedro Pascal และ Carl Weathers
Giancarlo Esposito

สมทบด้วยนักแสดงใหม่ Rosario Dawson ( Eagle Eye, ซีรีส์มาร์เวล The Defenders)จะมารับบท Ahsoka Tano พาดาวันหรือศิษย์ของ Anakin Skywalker ที่ปรากฎตัวมาแล้วในฉบับแอนิเมชันซีรีส์ Star Wars: Rebels และ Clone Wars และอีกบทบาทสำคัญที่ได้รับการยืนยันว่าจะมาแน่ ๆ ก็คือบท Boba Fett ที่ได้นักแสดง Temuera Morrison ซึ่งเคยรับบทเป็น Jango Fett ใน Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002) เข้าชื่อไว้แล้วเรียบร้อย แถมยังมี Timothy Olyphant (Hitman) และ Michael Biehn นักแสดงจากยุค 80s เจ้าของบท Kyle Reese คนแรกใน The Terminator (1984) ก็จะกลับมาเล่นบทที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นตัวละครไหนอีกด้วย

Temuera Morrison (คนขวา) เคยรับบทเป็น Jango Fett ใน Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002)
Rosario Dawson
Timothy Olyphant
Michael Biehn

ด้านทีมผู้กำกับของระดับแนวหน้าทั้งสิ้น ตั้งแต่ผู้สร้าง Jon Favreau ที่ลงมากำกับเองด้วย, Dave Filoni ผู้กำกับหนังแอนิเมชัน Star Wars: The Clone Wars (2008) และซีรีส์ Star Wars Rebels มาแล้ว, Bryce Dallas Howard นางเอกของ Jurassic World ที่ได้มากำกับบางเอพิโซดในซีซัน 1 ไปเช่นกัน, Rick Famuyiwa จากหนังน้ำดี Dope (2015), Peyton Reed จาก Ant-Man ทั้ง 2 ภาค (2015-2018) และ Robert Rodriguez ผู้กำกับเม็กซิโกคนดังเจ้าของผลงาน Sin City (2005), El Mariachi (1992) และ Alita: Battle Angel (2019)

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส