เมื่อผู้บริหารผู้อยู่เบื้องหลังบริการรับชำระเงินออนไลน์ ตระหนักว่าประชากรจำนวน 600 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ยังคงไม่มีบัญชีธนาคาร ไม่มีบัตรเครดิตและไม่สามารถดำเนินธุรกรรมออนไลน์ได้ จึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยได้พัฒนาบริการ 123 ซึ่งเป็นทางเลือกในการ ชำระเงินออนไลน์ ผลลัพธ์คือทุกวันนี้ 123 เป็นผู้นำโซลูชั่นทางเลือกในการชำระเงินทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยจำนวนจุดรับชำระเงินกว่า 320,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงจุดบริการใหม่ 12,000 แห่งในเมียนมา กว่าร้อยละ 40 ของการชำระเงินสำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเกิดขึ้นผ่าน 123

 

123 เป็นบริการของบริษัท ทูซีทูพี (2C2P) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในไทยและปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้นำการปฏิวัติด้านฟินเทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัทประสบความสำเร็จด้วยการก้าวไปพร้อมกับเทรนด์ที่ส่งให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นเขตเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ร้อนแรง อีคอมเมิร์ซ การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ การขยายตัวของเมือง คลาวด์ คอมพิวติ้ง และการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง ล้วนส่งให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในตลาดโซลูชั่นการชำระเงินทางเลือกชั้นเยี่ยมของโลก

“เราได้พัฒนาระบบชำระเงินทางเลือก นอกเหนือจากบัตรเครดิต เพื่อตอบโจทย์ของคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีบัตรหรือไม่มีแม้กระทั่งบัญชีธนาคาร โดยให้คนเหล่านั้นซื้อของออนไลน์และชำระด้วยช่องทางที่คุ้นเคย เช่น เคาน์เตอร์รับชำระเงิน หรือช่องทางต่างๆ ของธนาคารเช่น ตู้เอทีเอ็ม โมบายแบงกิ้ง อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง ” คุณปิยชาติ รัตน์ประสาทพร กรรมการบริหารของบริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด และนักยุทธศาสตร์ผู้อยู่เบื้องหลังบริการ 123 กล่าว “เราเชื่อว่าบริการ 123 จะกลายเป็นวิธีที่คนหลายล้านคนใช้ชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์”

ส่วนหนึ่งในความสำเร็จอันรวดเร็วของ 123 มาจากการเลือกใช้เทคโนโลยี เช่นเดียวกับบริษัทด้านโมบายล์อื่นๆ ในภูมิภาค ทูซีทูพีใช้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์ของอเมซอน เว็บ เซอร์วิส (AWS) เป็นแกนกลางในการเติบโตของ 123 โดยเน้นที่ความคุ้มค่า ความปลอดภัย และที่สำคัญที่สุดตามที่ประธานเจ้าหน้าที่สารสนเทศของ 123 ว่าไว้ คือการปรับขนาดได้ของ AWS ปัจจุบัน 123 ทำงานบนเครื่อข่ายของ AWS กว่า 300 เซิร์ฟเวอร์ และภายในสิ้นปี 2560 คาดว่าจะต้องใช้บริการ AWS ถึง 500 เซิร์ฟเวอร์

“เมื่อดูจากอัตราการเติบโตในการจัดการกับงานปริมาณมหาศาลของเรา จะเห็นว่าเราจำเป็นต้องมีผู้ให้บริการคลาวด์ที่เชื่อถือได้อย่าง AWS ที่ช่วยให้เราปรับตัวรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้โดยไม่สะดุด ทั้งยังมั่นคงและปลอดภัยในราคาที่คุ้มค่า” ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของบริษัท ทูซีทูพีคุณเมียว ซอ ซึ่งเป็นผู้ดูแลการย้ายมาใช้งาน AWS กล่าว “AWS นั้นสำคัญต่อการเติบโตและพัฒนาของเราอย่างมาก และช่วยเราลดรายจ่ายไปได้ราวร้อยละ 30 การพยายามดำเนินธุรกิจโดยใช้เซิร์ฟเวอร์ของเราเองจะทำให้เราไขว้เขวจากภารกิจหลักของเรา การทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์ของ AWS นั้นดีกว่ามาก เช่นเดียวกับการเรียนรู้จาก AWS ถึงแนวทางที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านไอที ซึ่งช่วยให้เราตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้ถือหุ้นได้ดีกว่าเดิม

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตในปี 2560 ทูซีทูพีจึงเร่งรุกขยายฐานลูกค้า

บริการ 123 ได้เพิ่มจำนวนจุดรับชำระเงินเป็น 320,000 แห่งทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึง อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย ทั้งในรูปแบบเคาน์เตอร์ตามห้างค้าปลีก เอทีเอ็ม และคีออสอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนธนาคารบนอินเทอร์เน็ตและธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ

บริษัทมองว่า 123 มีโอกาสเติบโตที่โดดเด่นในพม่าเนื่องจากสัดส่วนของผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารและผู้ใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ในระดับสูง ปัจจุบันร้อยละ 95 ของประชากรพม่าไม่มีบัญชีธนาคาร ทั้งนี้เครือข่ายรับชำระเงินของบริการ 123 นั้นใหญ่กว่าธนาคารบางแห่ง ทูซีทูพีได้ร่วมกับไปรษณีย์พม่า กลุ่มเอดับบลิวบีเอ และเครือข่ายร้านสะดวกซื้อเอบีซีในการให้บริการ 123

ขณะที่บริษัทคาดหวังว่า 123 จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ท้าทายในปี 2560 บริษัทยังคงให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงส่วนรวม

“บริการด้านการเงินควรเป็นเสมือนสิทธิ์ขั้นพื้นฐานสำหรับทุกคน” คุณปิยชาติกล่าว “เป้าหมายของเราคือสร้างโซลูชั่นด้านการชำระเงินอันดับหนึ่งของอาเซียน ควบคู่ไปกับให้บริการด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย อันจะช่วยพัฒนาผู้คน ประเทศชาติ และภูมิภาคไปพร้อมๆ กัน”