‘Oppenheimer’ (2023) หนังชีวประวัติเรื่องแรกจากวิสัยทัศน์ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) กลายเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะการถ่ายทอดเรื่องราวความอันตรายของระเบิดปรมาณู และเบื้องหลังชีวิตจิตใจของผู้คิดค้นอย่าง เจ. โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ (J. Robert Oppenheimer) ผ่านมุมมองของเขา ทั้งเรื่องของชีวิตส่วนตัว อุดมการณ์ ความผิดชอบชั่วดี เลื้อยลึกไปถึงความสัมพันธ์ จนกลายเป็นหนังที่มีลุ้นรางวัลออสการ์มากที่สุดถึง 13 สาขา

สิ่งเหล่านี้คือความจำเป็นอย่างหนักแน่นที่ทำให้หนังเรื่องนี้จึงต้องมีฉากอีโรติก โดยเฉพาะภาพความสัมพันธ์ลับ ๆ ของออปเพนไฮเมอร์ ที่นำแสดงโดย คิลเลียน เมอร์ฟี (Cillian Murphy) ในฐานะนักฟิสิกส์ที่มีเสน่ห์ กับ จีน แทตล็อก (Jean Tatlock) นักศึกษาแพทย์ จิตแพทย์ และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ที่รับบทโดย ฟลอเรนซ์ พิว (Florence Pugh) ที่ออปเพนไฮเมอร์เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่ด้วยช่วงเวลาหนึ่ง

ในระหว่างอีเวนต์การสนทนาที่ Universal Pictures จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ มี Session หนึ่งที่เป็นการสนทนาของนักแสดงนำ ทั้งเมอร์ฟี พิว และ เอมิลี บลันต์ (Emily Blunt) เจ้าของบทบาท แคตเธอรีน ออปเพนไฮเมอร์ (Katherine Oppenheimer) ในระหว่างสนทนาเกี่ยวกับหนัง พิวได้เล่าบรรยากาศของการถ่ายทำที่แม้หนังเรื่องนี้จะจริงจังสุด ๆ แต่เบื้องหลังก็ยังมีปัญหาด้านเทคนิคที่ดันกลายเป็นจังหวะนรก เพราะว่ากล้องที่ใช้ถ่ายทำดันพังเสีย แถมดันมาเกิดปัญหาตอนที่เธอกับเมอร์ฟีกำลังแสดงฉากอีโรติกด้วยกันอีก

“ระหว่างที่เรากำลังถ่ายฉากเซ็กส์ กล้องดันมาพัง ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยค่ะ แต่ฉันรู้ และมันก็เป็นไปแล้วด้วย กล้องของเราดันมาพังตอนที่เราทั้งคู่กำลังเปลือยเปล่า ซึ่งมันไม่ใช่จังหวะที่ดีซะเลย มีกล้องตัวหนึ่งกำลังซ่อมอยู่ในโรงซ่อม แล้วกล้องก็มีอยู่ไม่มาก คริส (โนแลน) ก็เลยหันไปถามใครบางคนว่า ‘กล้องอีกตัวอยู่ที่ไหนนะ’ (มีคนตอบว่า) อยู่ในโรงซ่อม มันเป็นข่าวร้ายมาก ๆ “

ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทำทุกฉากทุกซีนด้วยกล้องฟิล์ม IMAX ขนาด 65 มิลลิเมตร แถมหนังเรื่องนี้ยังพิเศษตรงที่เป็นหนังเรื่องแรกของโลกที่มีการใช้ฟิล์ม IMAX ขาวดำ (ที่ผลิตขึ้นเฉพาะโดยบริษัท Kodak) สำหรับถ่ายทำในบางฉาก ด้วยความที่กล้อง ฟิล์ม IMAX นั้นมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมากกว่ากล้องถ่ายทำภาพยนตร์ปกติมาก การหากล้องมาสำรองหรือใช้แทนจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ ทีมงาน และนักแสดงทั้งเมอร์ฟี และพิว จึงต้องหยุดการถ่ายทำฉากอีโรติกชั่วคราวเพื่อซ่อมกล้อง บรรยากาศการรอถ่ายทำต่อทั้งเปลือย ๆ ก็เลยดูแปลก ๆ ฮา ๆ อย่างที่เธอเล่า

“แล้วหลังจากนั้น เราก็ต้องหาวิธีซ่อมกล้องตัวนั้น ฉันกับคิลเลียนอยู่ในห้องนี้ด้วยกัน เพราะว่ามันเป็นฉากปิด เราก็เลยต้องปกปิดร่างกาย (ยกมือขึ้นกอดตัวเองแบบอึดอัดใจ) เอาไว้แบบนี้ แล้วช่างซ่อมกล้องคนนั้นก็เข้ามาในห้อง แล้วก็ อี๊ด ๆๆๆ (ทำท่าซ่อมกล้อง) กับกล้องตัวนั้น เพราะว่ากล้องมันเสีย”

“ฉันก็เลยถามไปว่า ‘ตอนนี้ฉันน่าจะรู้ได้แล้วมั้ง บอกหน่อยได้ไหมคะว่ากล้องมันเสียตรงไหน ? ‘ แค่อยากจะมีส่วนร่วมไรงี้ (หัวเราะ) แล้วฉันก็ถามอีกว่า ‘นาย เกิดอะไรขึ้นกับชัตเตอร์นั่นเหรอ'” ซึ่งในที่สุดเธอก็รู้จากโนแลนว่ากล้องมีปัญหาเกี่ยวกับรูรับแสง เลยทำให้ถ่ายฉากนั้นต่อไปไม่ได้

พิวกล่าวทิ้งท้ายถึงความประทับใจที่เกิดขึ้นในระหว่างการถ่ายทำในกองถ่ายนี้ว่า “มันเป็นอะไรที่บ้ามาก ที่ทุกคนในกองถ่ายมีความรอบรู้เป็นอย่างมาก และพร้อมที่จะทำหนังเรื่องนี้โดยที่ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ดูทึ่มกันเลย มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ๆ รู้สึกว่าเหมือนเราโชคดีที่ได้อยู่ในนั้นในทุก ๆ วินาทีในทุกวัน”

ที่มา: Variety, CinemaBlend

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส