วงการฮอลลีวูดว่างเว้นจากข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของนักแสดงมาสักระยะใหญ่ ความกะทันหันในที่นี้หมายถึง กรณีที่นักแสดงชื่อดังเหล่านั้นยังอยู่ระหว่างถ่ายทำหนังที่ยังไม่เสร็จสิ้น หรือจะต้องกลับมาแสดงในภาคต่อของแฟรนไชส์ฮิต ข่าวการเสียชีวิตช็อกโลกของ Chadwick Boseman ผู้โด่งดังจากหนังซูเปอร์ฮีโรจักรวาลมาร์เวล Black Panther (2018) สร้างความสะเทือนใจและก่อให้เกิดคำถามว่า อนาคตของ Black Panther 2 จะเป็นอย่างไรต่อไป ใครจะมารับบทแทน Boseman?
คำถามนี้เคยเกิดขึ้นกับหนังหลายเรื่องเหล่านี้ที่เคยสูญเสียนักแสดงไประหว่างทาง ส่วนมากจะเลือกใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกสำหรับฉากของนักแสดงผู้ล่วงลับหรือตัดบทออกไปในภาคต่อไป มากกว่าจะใช้นักแสดงมาสวมบทแทน (เว้นเฉพาะบางเรื่องที่ยังเหลืออีกหลายภาค) What the Fact ขอเชิญหวนรำลึกถึง 10 นักแสดงดังในหนังดังหลายเรื่องที่เคยเสียชีวิตช็อกแฟน ๆ ทั่วโลกมาแล้ว
CARRIE FISHER (1956-2016)


แฟรนไชส์สงครามแห่งดวงดาวได้พบกับสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อปี 2016 กับการเสียชีวิตของนักแสดงนำที่มีบทบาทมาตั้งแต่ภาคแรกอย่าง Carrie Fisher เจ้าของบทเจ้าหญิง Leia หรือ Leia Skywalker แม้ว่าความจริงแล้ว ด้วยความที่แฟรนไชส์นี้มีอายุยาวนานมาตั้งแต่ภาคแรกปี 1977 ก็อาจไม่แปลกนักที่ช่วงหลังมานี้ จะเริ่มมีนักแสดงสูงอายุเสียชีวิตไปตามวาระเช่น Christopher Lee (เล่นบท Count Dooku), Kenny Baker (เล่นบท R2-D2) และ Peter Mayhew (เล่นบท Chewbacca) แต่บทเหล่านี้อาจจะหานักแสดงรุ่นลูกมาเล่นแทนได้ ต่างกับบทเจ้าหญิง Leia ที่ทีมสร้างไตรภาคล่าสุดวางแผนว่าจะให้เธอมีบทเด่นสำคัญในภาคสุดท้าย (เป็นการปิดจบตัวละครหลักจากไตรภาคแรกไปภาคละตัว ตามหลัง Han Solo และ Luke Skywalker)


Fisher หัวใจวายรุนแรงขณะโดยสารเครื่องบินจากลอนดอนมาที่ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ช่วง 15 นาทีขณะที่เครื่องบินกำลังจะลงจอดในแอลเอ พนักงานต้อนรับบทเครื่องบินได้ประกาศตามหาว่ามีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์อยู่บนเครื่องบินหรือไม่ จากนั้นก็มีพนักงานปฏิบัติหน้าที่ฉุกเฉินทางการแพทย์ หรือ EMT ที่โดยสารมาในเครื่องบินดังกล่าว ได้เดินไปที่ส่วนผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสเพื่อทำการช่วยเหลือกู้ชีพเบื้องต้น เมื่อเครื่องบินลงจอดก็มีการนำ Fisher นำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่เธอก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา


สุดท้าย J.J. Abrams ผู้กำกับภาค 9 ที่เริ่มเตรียมงานสร้าง 6 เดือนให้หลังการเสียชีวิตของเธอ จึงต้องเขียนบทของหนังให้สอดคล้องกับภาพฟุตเทจที่ยังเหลืออยู่ และยังไม่เคยถูกใช้ของ Fisher จากภาค The Force Awakens และ The Last Jedi ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้ว เขาได้เลือกใช้ฟุตเทจ 8 นาทีจาก The Force Awakens และอีกไม่มากจาก The Last Jedi โดยเลือกใช้วิธี “ย้อนกลับการถ่ายทำ” ด้วยการใช้ฟุตเทจเดิม เพื่อให้เกียรติกับ Fisher โดยให้กระทบกับเส้นเรื่องที่จะเล่าน้อยที่สุด ทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ เพียงแต่ตกแต่งทรงผม เสื้อผ้า และฉากหลังของ Fisher ให้เหมาะกับฉากต่าง ๆ ในเรื่อง The Rise of Skywalker เท่านั้น (ชวนอ่าน “ดูออกมั้ย? “เจ้าหญิงเลอา” ใน Star Wars 9…ฉากไหนตัวจริง-ฉากไหน CG? หลังเสียชีวิต“)
- เสียชีวิตเมื่ออายุ: 60 ปี
- สาเหตุการเสียชีวิต: หัวใจวายขณะโดยสารเครื่องบิน
- หนังที่เล่นค้างไว้: Star Wars IV: The Rise of Skywalker (2019)
- ผลงานเรื่องสุดท้าย: Wonderwell (2020)
- หนังที่ดังที่สุด: แฟรนไชส์ Star Wars (1977-2019)
- ผลงานหนังดังเรื่องอื่น ๆ: Hannah and Her Sisters (1986), When Harry Met Sally … (1989), Soapdish (1991)
ANTON YELCHIN (1989-2016)


อีกหนึ่งแฟรนไชส์ดังการผจญภัยในห้วงอวกาศ ที่นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมาหนังก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ไปต่อกับภาค 4 เพราะเปลี่ยนมือผู้กำกับไปแล้วหลายคน และ Paramount ก็ดูลังเลไม่กล้าทุ่มทุนสร้าง เพราะภาคที่ 3 Star Trek Beyond (2016) ทำรายได้ไม่ตามเป้า แต่ก่อนที่ภาคสุดท้ายจะฉายได้เพียงแค่เดือนเดียว Anton Yelchin หนึ่งในนักแสดงเจ้าของบทต้นหนเรือ Chekov ก็เกิดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน โดยเพื่อนของเขาเป็นผู้พบศพ หลังจากที่เขาขาดการติดต่อและไม่มาตามการนัดหมายเรื่องการซ้อมการแสดง เพื่อนจึงเดินทางไปหาเขาที่บ้านที่ซานเฟอร์นันโด วัลเลย์ ตอนตี 1 ตามเวลาท้องถิ่น และพบศพของ Yelchin ถูกรถโฟร์วีลของเขาเองอัดติดกับบริเวณเสาอิฐหน้าบ้าน


เขาเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เกิดในรัสเซีย (ใน Star Trek เขาเล่นเป็นตัวละครที่ใช้สำเนียงรัสเซียในการพูด) พ่อแม่เป็นนักสเก็ตน้ำแข็งลีลาอาชีพที่ย้ายครอบครัวมาอยู่สหรัฐฯ ตั้งแต่ Yelchin ยังแบเบาะ ผลงานที่เขาถ่ายทำเสร็จไปแล้วก่อนจะเสียชีวิตมีหลายเรื่องทั้ง Porto (2016), We Don’t Belong Here (2017) และ Dark (2017) ที่เป็นผลงานเรื่องสุดท้ายแต่ทุกเรื่องก็ไม่มีเรื่องไหนดังเท่า Star Trek อีกแล้ว งานที่ค้างอยู่ยังมีการพากย์เสียงในซีรีส์ Trollhunters: Tales of Arcadia ซึ่งได้นักแสดง Emile Hirsch มาทำหน้าที่พากย์เสียงแทน
ส่วนใน Star Trek นั้นจนขณะนี้ก็ยังไม่มีรายชื่อนักแสดงคนไหนมาแทนเขา เดิมที J.J. Abrams ผู้อำนวยการสร้างบอกเอาไว้ตอนหนังภาค 3 เข้าฉายว่า บทนี้จะไม่มีนักแสดงคนไหนมาแทน Yelchin
- เสียชีวิตเมื่ออายุ: 27 ปี
- สาเหตุการเสียชีวิต: รถไหลมาอัดทับกับเสาอิฐหน้าบ้าน
- หนังที่เล่นค้างไว้: ซีรีส์ Trollhunters: Tales of Arcadia
- ผลงานเรื่องสุดท้าย: Dark (2017)
- หนังที่ดังที่สุด: แฟรนไชส์ Star Trek (2009-2016)
- ผลงานหนังดังเรื่องอื่น ๆ: Alpha Dog (2006), Terminator Salvation (2009), Green Room (2015)
PHILLIP SEYMOUR HOFFMAN (1967-2014)
นักแสดงมากฝีมือระดับที่เคยคว้าออสการ์นักแสดงนำชายมาแล้วจาก Capote (2005) และยังเข้าชิงสาขาสมทบชายอีก 3 ครั้งจาก Charlie Wilson’s War (2007), Doubt (2008) และ The Master (2012) ก็การันตีได้เลยว่า ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ต่อนานกว่านี้ จะต้องเป็นนักแสดงคุณภาพมากขนาดไหน ดังนั้นในปี 2014 ที่มีการประกาศการเสียชีวิตของ Philip Seymour Hoffman จึงสร้างความตกใจและสะเทือนใจให้กับแฟนหนังทั่วโลกอย่างมาก ร่างไร้วิญญาณของเขาถูกพบในอพาร์ตเมนต์ของเขาที่แมนฮัตตัน นิวยอร์กพร้อมกับเข็มฉีดยา ต่อมามีการยืนยันเหตุของการเสียชีวิตว่ามาจากเการเสพยาเกินขนาด จากและพบว่ามีเฮโรอีนจำนวนมากในห้องของ Hoffman ก่อนหน้านี้เขาเคยเลิกยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง


ตอนที่เสียชีวิตนั้น Hoffman ยังถ่ายทำหนังภาคสุดท้าย The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 (2015) โดยยังเหลืออีก 2 ฉาก ฉากแรกเป็นฉากที่เขาต้องแสดงบทพูด ใน Part 2 ส่วนอีกฉากเป็นแค่การร่วมแสดงแต่ไม่ต้องพูดใน Part 1 ท้ายที่สุดผู้กำกับ Francis Lawrence ปฏิเสธที่จะใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกสร้างตัวละคร Plutarch Heavensbee ของ Hoffman ขึ้นมาใหม่ รวมถึงปฏิเสธที่จะใช้นักแสดงแทนมาเข้าฉาก และแก้ปัญหาโดยตัดสินใจเขียนฉากของเขาขึ้นมาใหม่ และให้บทพูดของเขาแก่นักแสดงคนอื่นแทน
- เสียชีวิตเมื่ออายุ: 46 ปี
- สาเหตุการเสียชีวิต: ใช้สารเสพติดเกินขนาด
- หนังที่เล่นค้างไว้: The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 (2015)
- ผลงานเรื่องสุดท้าย: The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 (2015)
- หนังที่ดังที่สุด: แฟรนไชส์ The Hunger Games (2013-2015)
- ผลงานหนังดังเรื่องอื่น ๆ: Mission: Impossible III (2006), Moneyball (2011), The Ides of March (2011)