เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ iPhone รุ่นใหม่อีกสองรุ่นตามข่าวลือก่อนหน้านี้นั่นก็คือ iPhone Xs และ iPhone Xs Max หรือ iPhone Xs ที่นำมาขยายขนาดหน้าจอนั่นเองครับ

iPhone Xs และ iPhone Xs Max

iPhone Xs เป็น iPhone รุ่นพัฒนาต่อยอดจาก iPhone X และ iPhone Xs Plus โดย iPhone Xs Max ก็คือการนำ iPhone Xs มาขยายขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นจาก 5.8 นิ้ว เป็น 6.5 นิ้ว หน้าจอ OLED แสดงผล 120Hz ยังรองรับ 3D Touch อยู่

iPhone Xs และ iPhone Xs Max มีระบบการจดจำใบหน้าหรือ Face ID ที่แม่นยำกว่าเดิม และรวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา แต่ทีเด็ดของรุ่นนี้อยู่ที่ ชิปประมวลผล Apple A12 Bionic ครับ

ชิปใหม่ Apple A12 Bionic

iPhone ทั้งสองรุ่นใช้ชิปประมวลผล Apple A12 Bionic ซึ่งเป็นชิปที่ผลิตที่สถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร เรียกว่าตัดหน้า Huawei กลายเป็นชิปตัวแรกของโลกที่ผลิตที่สถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร (ที่วางขายในเครื่องจริง) ซึ่ง Apple ระบุว่า Apple A12 Bionic ประมวลผลได้เร็วกว่ารุ่นเก่า 15% โดยประมวลผล GPU ได้ดีกว่าถึง 50% โดยรวมแล้วประหยัดไฟมากขึ้น 50% มาพร้อมส่วนประมวลผลแบบสมองมนุษย์ (Neural Engine) 8 แกน สามารถประมวลผลได้ 5 ล้านล้านครั้งในหนึ่งวินาที ทำให้ Core ML หรือ Machine Learning ทำงานได้เร็วกว่า A11 ถึง 9 เท่า พร้อมส่วนประมวลผลภาพใหม่ด้วย

ด้วยสเปกที่แรงขึ้นขนาดนี้ทำให้ iPhone สามารถประมวลผล AR ได้ดียิ่งขึ้น โดย iPhone Xs มาพร้อมกับ AR2 ซึ่งมีการแสดงผลสิ่งของที่ดีขึ้น ตรวจจับวัตถุได้ดีขึ้น และรองรับแอปสำหรับวัดค่าแบบใหม่ๆ มากขึ้น

กล้องที่ดีขึ้น

iPhone Xs ยังเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยเซนเซอร์ตัวใหม่ กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลสองตัว (ความละเอียดเท่ากับ iPhone X) สำหรับเลนส์ปกติ เป็นเลนส์มุมกว้าง รูรับแสงขนาด f/1.8 และเลนส์ที่สองสำหรับ Zoom หรือ Telephoto รูรับแสง f/2.2 (ทั้งคู่รูรับแสงเท่า iPhone X) แฟลช True Tone เองก็ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นด้วย สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ครับ

กล้องของ iPhone Xs มาพร้อมกับ Smart HDR ซึ่งตัวเครื่องจะถ่ายรูปออกมาหลายๆ รูป แล้วเลือกภาพที่ได้รายละเอียด เช่น เงา แสง เป็นต้น ที่ดีที่สุดและรวมเป็ยภาพเดียว ซึ่งสื่อต่างประเทศบอกว่ามันมาแทนที่ HDR ของปีที่แล้วที่ทำงานได้ค่อนข้างไม่น่าประทับใจเลย

โหมดภาพถ่ายบุคคลเองก็ถูกพัฒนาได้ดียิ่งขึ้นหลังจาก iPhone X ทำผลงานยังไม่ดีมากเท่าไหร่นัก Apple กล่าวว่าบริษัทไปทำการบ้านมาเพิ่มเติมทำให้การถ่ายภาพบุคคลบน iPhone Xs ออกมาดียิ่งขึ้นทั้งเรื่องการโฟกัสและการทำโบเก้ออกมาได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับขนาดของรูรับแสงเองได้อีกด้วย

ไม่หมดเพียงเท่านี้ สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้นก็ถูกอัปเกรดเช่นเดียวกัน โดย Apple บอกว่ามันคือ “A new era of videography” โดย iPhone Xs มีเซ็นเซอร์ที่เร็วขึ้น 2 เท่า รองรับการอัดเสียงแบบสเตอริโอ สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Extended dynamic range ได้ด้วย (น่าจะเหมือนการถ่ายวิดีโอแบบ HDR)

ด้านแบตเตอรี่ Apple เผยว่า iPhone Xs สามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone X ครึ่งชั่วโมง แต่สำหรับ iPhone Xs Max นั้นสามารถใช้งานได้นานขึ้นอีก 1 ชั่วโมง 30 นาทีเลยครับ

นอกจากนี้ iPhone Xs และ Xs Max ยังป้องกันน้ำที่ระดับ IP68 หรือกันน้ำลึกได้ 2 เมตร ซึ่งอัปเกรดจาก iPhone X ที่เป็น IP67 กันน้ำลึกได้เมตรเดียวครับ

iPhone Xs และ Xs Max รองรับ 2 ซิมแล้ว สำหรับโมเดลทั่วไปจะรองรับซิมปกติหนึ่งอัน และ eSim อีกหนึ่งอัน แต่สำหรับโมเดลที่ขายในจีนนั้นจะรองรับซิมแบบปกติทั้งสองช่องเลยครับ สุดท้ายคือความจุใหม่ 512GB มาถึงจุดที่สมาร์ทโฟนมีความจุเท่าแล็ปท็อปเครื่องหนึ่งแล้วครับ

ราคาและการวางจำหน่าย iPhone Xs และ iPhone Xs Max

เทียบขนาดจอ iPhone Xs, iPhone Xs Max และ iPhone 8 Plus

สำหรับราคาของ iPhone Xs นั้นไม่ได้ถูกลงตามรายงานก่อนหน้านี้เลย ยังคงเริ่มต้นที่ $999 เท่าเดิม (~33,000 บาท) สำหรับ iPhone Xs และแพงขึ้นไปอีก เริ่มต้นที่ $1,090 สำหรับ iPhone Xs Max ครับ (~36,000 บาท) ซึ่งจะเริ่มขายในประเทศกลุ่มแรกวันที่ 21 กันยายนนี้ และกลุ่มที่สอง 28 กันยายน ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีกำหนดขายในไทยตอนนี้ครับ

iPhone Xs เพิ่มสีทองเข้ามา คงถูกใจหลายๆ คน

ในกล่อง iPhone Xs มีอะไรมาบ้าง น่าผิดหวังหลายอย่าง คือไม่มีหัวแปลงช่องหูฟัง 3.5 mm มาให้แล้ว และอแดปเตอร์ชาร์จไฟก็ยังเป็นแบบชาร์จช้าเหมือนเก่า

อ้างอิง

อ่านข่าวแอปเปิ้ลเพิ่มเติม