ATONEMENT (2007)
ร้องไห้ให้กับชะตะกรรมอันพลิกผัน เพราะความอิจฉาริษยาของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง”
เรื่องราวของ Briony Tallis น้องสาวตัวแสบที่อิจฉาพี่สาวจนสุดท้ายเรื่องราวนำไปสู่โศกนาฏกรรมเกินกว่าใครจะคาดคิด เมื่อโชคชะตาได้เล่นตลกกับชะตากรรมของคู่รักคู่หนึ่งในช่วงแรกรัก เกิดเหตุข่มขืนในคฤหาสถ์ผู้ดีอังกฤษ และ Briony ลูกสาวคนเล็กของบ้านยืนยันเสียงแข็งว่าผู้กระทำคือคนรักของพี่สาว ทั้งที่ไม่เห็นกับตาและไม่ใช่ความจริง ด้วยความไม่เดียงสาของเด็กแก่แดดแก่ลม จึงนำพาชีวิตผู้ถูกกล่าวหาสู่สงครามและพี่สาวของเธอต้องมีชีวิตรักที่อาภัพและหม่นหมองไปตลอดชีวิต โดยคนดูก็จะได้เป็นประจักษ์พยานกับเหตุการณ์อันน่ารันทดนี้ไปด้วย


- นักแสดง: James McAvoy, Keira Knightley, Saoirse Ronan, Juno Temple, Benedict Cumberbatch
- ผู้กำกับ: Joe Wright (Darkest Hour, Hanna, Pride & Prejuduce, Pan)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 30 / 129 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 83% / 7.8/10
- บทบาทบนเวทีออสการ์:
- ชนะ 1 สาขารางวัล (เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
- เข้าชิง 6 สาขารางวัล (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Saoirse Ronan), บทภาพยนต์ดัดแปลงยอดเยี่ยม, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, องค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม)
A BEAUTIFUL DAY IN THE NEIGHBORHOOD (2019)
ร้องไห้ให้กับบาดแผลอันร้าวรานในใจ และวิธีการแก้ปัญหาด้วยการคิดบวก”
หนังสร้างจากเรื่องจริงของ Fred Rogers ผู้ดำเนินรายการ MisterRogers และ MisterRogers’ Neighborhood ในช่วงปี 1968-2001 เล่าเรื่องโดยมีตัวละคร Lloyd Vogel เป็นศูนย์กลาง เขาเป็นคอลัมนิสต์ในนิตยสาร Esquire ซึ่งงานเขียนบทสัมภาษณ์ของเขา มักเป็นแนวล้วงลึกหาความจริงจากคนถูกสัมภาษณ์จนเขาติดนิสัยการเป็นคนชอบตัดสินและมองหาแง่ร้ายในตัวคนอื่นอยู่เสมอ เขาได้หวนกลับมาเจอกับพ่อวัยชราที่ทิ้งเขากับแม่และน้องสาวไปตั้งแต่เด็กจนกระทั่งแม่ตาย ผ่านมา 20 ปี พ่อพยายามจะกลับเข้ามาในชีวิตของเขาซึ่งก็สร้างความกระอักกระอ่วนให้อย่างมาก ต่อมา บก.ก็ได้มอบหมายให้ Lloyd ไปสัมภาษณ์ Fred Rogers พิธีกรรายการเด็กวัยชราที่เขาไม่ศรัทธาเลยเพื่อลงในฉบับ “ฮีโร” ปี 1998 หลังจากนั้นหนังก็ทำให้ Lloyd ได้ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงมุมมองและทัศนคติการใช้ชีวิตทีละน้อย ผ่านการให้กำลังใจด้วยการตั้งคำถามและการใช้ชีวิตของ Rogers

หนังได้ยกระดับคุณค่าให้แก่ “หัวใจที่ตรากตรำและร้าวราน” ของ Lloyd ซึ่งแบกภาระอันหนักอึ้ง เขาทำหน้าที่แทนคนดูที่ต่างก็มีสัมภาระที่อยากลืมกลับต้องจำ รวมถึงฝันร้ายที่วันดีคืนดีก็ตามกลับมาหลอกหลอน ซึ่งคนดูอาจจะน้ำตารื้นไปกับวิธีการแนะนำการแก้ปัญหาชีวิตของ Fred เพื่อมอบทัศคติที่ดีให้ Lloyd โดยอ้อม (และกับคนดูด้วยในเวลาเดียวกัน) ทำให้ผู้ชมที่กำลังค้นหาความหมายของชีวิต หรือคนที่กำลังหลงทางกับปัญหาในความสัมพันธ์อาจได้ค้นพบทางออกและความหมายของชีวิตที่ดีขึ้น และอาจได้ร้องไห้ให้กับเรื่องเก่า ๆ ในวันวานของตัวเอง เมื่อหนังจบและไฟในโรง (สำหรับคนที่เคยชมในโรง) สว่างขึ้นมา (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)

- นักแสดง: Tom Hanks, Matthew Rhys, Chris Cooper, Susan Kelechi Watson, Maryann Plunkett
- ผู้กำกับ: Marielle Heller (Can You Ever Forgive Me?, The Diary of a Teenage Girl)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 25 / 67 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 95% / 7.3/10
- บทบาทบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 1 รางวัล (นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Tom Hanks))
THE TRUMAN SHOW (1998)
ร้องไห้ให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกหลอกมาทั้งชีวิต และอิสระภาพที่เขาได้รับ”
Truman Burbank ใช้ชีวิตอย่างอบอุ่นมีความสุขในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เขาไม่มีโอกาสได้ออกนอกเมืองแห่งนี้ เมื่อจะไปต่างประเทศหรือต่างเมืองก็ต้องมีเหตุผลสักอย่างให้ไม่ได้ไป วันหนึ่งก็มีเรื่องเซอร์ไพร์ส เมื่อเขาพบว่ามี “กล้องถ่ายวิดีโอ” ตกมาจากท้องฟ้า และเขาก็เกิดได้ยินเสียงเสียงประหลาดผ่านวิทยุเหมือนเป็นการรายงานกิจวัตรประจำวันของเขา เขาจึงเริ่มเอะใจว่า มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล Truman ค่อย ๆ สืบรู้ว่า เขากำลังเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่ถูกถ่ายทำอยู่ในโรงถ่ายมาตลอดทั้งชีวิต เขาจึงพยายามหนีออกจากที่นี่แบบไม่ให้ทีมถ่ายรายการรู้ตัว แต่เมื่อใดที่เขาออกจากสคริปต์ ก็จะมีเหตุการณ์ประหลาดต่าง ๆ บีบบังคับให้เขาต้องใช้ชีวิตแบบเดิมตามที่บทกำหนดโดยไม่รู้ตัว

หนังตลกร้ายแนวคิดแหวกแนวที่ทำให้ใคร ๆ ที่เคยได้ดูต้องเสียน้ำตา โดยเฉพาะให้กับประเด็นที่หนังเปรียบเปรยมนุษย์อย่าง Truman ให้เป็นเสมือนวัตถุหรือสินค้าชิ้นหนึ่งอย่างแยบคาย เช่นเดียวกับที่มีการบูชาศิลปินดาราในทุกยุคทุกสมัยอย่างไม่เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนนั้น ๆ มากกว่าภาพลักษณ์ที่ถูกเสริมเติมแต่ง กับในช่วงไคลแม็กซ์ คนดูก็ต้องร่วมลุ้นไปกับ Truman และบทสรุปก็ทำให้ทุกคนที่เอาใจช่วยเขาต้องเสียน้ำตา

- นักแสดง: Jim Carrey, Laura Linney, Ed Harris, Noah Emmerich, Natascha McElhone
- ผู้กำกับ: Peter Weir (Master and Commander, Witness, The Way Back)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 60 / 264 ล้านเหรียญฯ
- Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 95% / 8.1/10
- บทบาทบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 3 สาขารางวัล (ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Ed Harris), บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
(อ่านจบแล้วต่อตอนที่ 2 ได้ที่นี่)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส